[Review] 迷宮のキャンバス

 

     สวัสดีค่า รีวิวหนังสือภาษาญี่ปุ่นกลับมากันเช่นเคยอีกครั้ง ตอนนี้อาจจะมาอัพช้าหรือไม่ได้มาบ่อยเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่อ่านหนังสือเล่มต่อ ไม่ก็ไม่มีเวลาหรือไม่มีอารมณ์จะอ่าน เลยอ่านได้น้อยกว่าปกติค่ะ (อันนี้เป็นที่ตัวเราเองนะ) แต่จะพยายามอ่านไปเรื่อยๆ และมาเขียนเท่าที่จะมีเวลานะคะ


     สำหรับเล่มนี้เราดองไว้ใน Kindle Unlimited มานานแล้วแหละ จะหยิบอ่านหลายรอบแล้วแต่เจอเรื่องอื่นๆดึงความสนใจตลอด จนสุดท้ายตัดสินใจว่ารีบๆ เคลียร์เล่มเก่าๆ ที่ยืมมาให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าไม่งั้นก็ตะขิดตะขวงใจเวลาจะกดเล่มใหม่ๆ มาดอง ก็เลยได้หยิบมาอ่านในที่สุดค่ะ


(ภาพจาก Amazon)

ชื่อเรื่อง : 迷宮のキャンバス (Meikyuu no Canvas)
ผู้เขียน : 国沢 裕 (Kunizawa Yuu)
สำนักพิมพ์ : マイナビ出版ファン文庫 (My Navi Publishing Fan Bunko)
จำนวนหน้า : 259 หน้า
ราคา : 347 เยน 

     ซาคุระ คาสุมิ นักศึกษามหาวิทยาลัยสาวที่ชีวิตไม่ค่อยเอาอ่าวสักเท่าไหร่มีคู่ปรับเป็นเด็กหนุ่มม.ปลายเรียนดีแถวบ้านชื่อ เอนุมะ ซาโตชิ ถ้าทั้งสองได้เจอหน้ากันเมื่อไหร่มีแต่ต้องแซะกันทุกครั้ง (แต่ส่วนใหญ่แล้วคนโดนแซะจะเป็นคาสุมิเสียมากกว่า เพราะเธอสู้ซาโตชิไม่ได้เลยสักอย่าง และได้แต่หาว่าเด็กหนุ่มชอบอวดเบ่งปีนเกลียวกับผู้ใหญ่) แต่จู่ๆ ทั้งสองก็ต้องมาร่วมมือกัน เพราะคาสุมิเกิดไปถูกใจภาพวาดสุนัขจากร้านขายของเก่าที่เธอชอบแวะเวียนไปและซื้อภาพนั้นกลับมาบ้านด้วย ก่อนที่จะถูกชายปริศนาท่าทางน่าสงสัยที่อ้างตัวว่าเป็นนักซื้อขายงานศิลปะมาขอซื้อภาพวาดสุนัขภาพนั้นต่อจากเธอ

     ซาโตชิเป็นคนเข้ามาช่วยคาสึมิจากชายปริศนาคนนั้น ที่มาทราบชื่อในภายหลังว่าชื่อ ทาคาโต ชูเซ ทาคาโตเป็นนักซื้อขายงานศิลปะที่จะรับคำขอจากลูกค้าและตามหาภาพที่ลูกค้าที่ต้องการให้ และสาเหตุที่เขาต้องการภาพสุนัขของคาสุมิภาพนั้นเพราะได้รับการไหว้วานมาจากครอบครัวของเจ้าของภาพคนก่อนที่เผลอขายภาพนี้ออกมาโดยไม่ตั้งใจและต้องการซื้อภาพคืน คาสุมิตกลงที่จะขายภาพคืนให้เจ้าของคนก่อนโดยแลกกับการที่เธอขอติดรถทาคาโตไปส่งภาพให้ถึงมือเจ้าของเดิมด้วย แน่นอนว่าซาโตชิคัดค้านว่าอันตราย แต่สุดท้ายเขาก็ยอมไปส่งภาพพร้อมกับคาสุมิและทาคาโต

     จากภาพวาดนี้เองทำให้ทั้งสามคนกลายมาเป็นเหมือนกลุ่มที่คอยไขปริศนาเกี่ยวกับภาพวาดอยู่เนืองๆ ทั้งคำขอร้องจากเพื่อนของเพื่อนที่อยู่คณะจิตรกรรมที่ขอให้ช่วยพิสูจน์ว่าภาพของเธอที่ได้รับรางวัลนั้นไม่ใช่ฝีมือของเธอ หรือช่วยค้นหาเด็กที่หายไปจากภาพวาดในโรงเรียนประถม และเรื่องราวอื่นๆ ซึ่งเป็นปริศนาเกี่ยวกับภาพวาดรวมถึงปมที่ติดอยู่ในใจของทาคาโตด้วย



     ถ้าให้สรุปสั้นๆ สำหรับเล่มนี้ เราไม่ค่อยปลื้มค่ะ ด้านพล็อตเราไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะรู้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะเป็นไลท์โนเวลมาตั้งแต่แรก เลยไม่ได้คาดหวังงานสืบสวนหรือไขปริศนาแบบเข้มข้นอยู่แล้ว คือในด้านพล็อตเราอ่านเพลินๆ ได้ แถมยังมีความรู้เรื่องศิลปะและประวัติศาสตร์ศิลปะสอดแทรกอยู่ทั่วทั้งเล่มด้วยซ้ำ ซึ่งในแง่หนึ่งเราว่าโอเคนะ แต่ในอีกแง่สำหรับเราที่เป็นต่างชาติ เราค่อนข้างมีปัญหากับการแกะชื่อและแปลงกลับให้เป็นชื่ออังกฤษตามที่รู้จักอยู่ค่ะ (ซึ่งอันนี้เป็นปัญหาส่วนตัว คนอื่นอาจจะไม่เป็นแบบเราก็ได้)

     เรื่องที่เราไม่โอเคกับเล่มนี้คือคาร์แรคเตอร์ค่ะ รู้สึกคาร์แรคเตอร์ค่อนข้างมีความสุดโต่ง โดยเฉพาะคาสุมิตัวเอกเป็นสไตล์ที่เราค่อนข้างจะรำคาญเป็นพิเศษ ถ้าพูดแบบอคติคืออ่านแล้วให้ความรู้สึกว่าเป็นคนหัวกลวง ดูเป็นคนที่ไม่รู้และไม่ค่อยรับอะไร ต้องให้ผู้ชายอย่างซาโตชิและทาคาโตคอยสอนว่าเป็นแบบนี้ๆ นะ เพราะคาสุมิไม่มีความรู้ด้านศิลปะและเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ไปค้นคว้าด้วยตัวเองแบบจริงจังด้วยค่ะ ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้เราหงุดหงิด เพราะความรู้ที่ซาโตชิและทาคาโตสอนให้มักจะตามมาด้วยการ "แซะ" เธอเสมอ เลยทำให้รู้สึกว่าตัวเอกค่อนข้างจะกลวงมาก มีดีแค่มีน้ำใจแบบไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างเดียว 

     จากจุดที่ว่ามานี้มันเป็นจุดใหญ่มากที่ทำให้เราใช้เวลาอ่านเล่มนี้นานมากๆ แบบแค่หยิบขึ้นมาก็ เฮ้อ เมื่อไหร่จะจบแล้ว แต่ก็ต้องอ่านต่อไปเรื่อยๆ เพราะจุดที่บอกตัวเองว่า จะทนไม่ไหวแล้ว เนี่ยเราอ่านมาเกือบจะครึ่งเล่มและเสียเวลากับเล่มนี้ไปมากแล้ว จะให้ทิ้งเสียเปล่าเราก็เสียดาย หลังๆ เลยพยายามรีบๆ สปีดอ่านให้จบจะได้มูฟไปอ่านเล่มต่อไปค่ะ


     สรุปคือเล่มนี้น่าจะแล้วแต่จริตคนค่ะ แต่สำหรับเรา เราไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ด้วยเหตุผลที่ว่ามา แต่ถ้าลองอ่านจริงหลายคนอาจจะไม่คิดแบบเราก็ได้ เอาเป็นว่าถ้าสนใจก็ลองดูได้ค่ะ ภาษาไม่ยากมาก จะยากหน่อยก็แค่ตรงเวลาพูดถึงประวัติศาสตร์ศิลปะนี่แหละค่ะ

     แล้วพบกันใหม่เล่มหน้าค่ะ



Post a Comment

0 Comments