[TRANS] ROOT FIVE "Daigyakuten Emotion" Interview @Natalie


     สวัสดีค่ะ หลังจากหายไปพักใหญ่ วันนี้กลับมาพร้อมแปลบทสัมภาษณ์ ROOT FIVE ค่ะ เนื่องจากวงเพิ่งฉลองเดบิวต์ครบ 5 ปีและออกซิงเกิลใหม่ในเดือนนี้ไป ก็เลยตั้งใจว่าจะแปลบทสัมภาษณ์เก็บไว้เป็นที่ระทึก ซึ่งรอบนี้บทสัมภาษณ์เท่าที่เจอในเว็บไซต์นั้นมีเยอะมาก และแต่ละเว็บก็พูดถึงในประเด็นที่แตกต่างกันไป บอกตรงๆคือหนักใจมากว่าจะเลือกบทสัมภาษณ์ของที่ไหนมาแปลดี คือเราไม่สามารถแปลทั้งหมดไหวเพราะแต่ละเว็บก็ลงค่อนข้างยาวด้วย สุดท้ายเลยตัดใจเลือกของเว็บ natalie มาแค่เว็บเดียวค่ะ

     สำหรับบทแปลของเรา เราถอดความและปรับบทแปลให้อ่านง่ายและสละสลวยตามความเข้าใจของเรานะคะ อาจจะไม่ได้เป๊ะมากทุกคำ ถ้ามีแปลผิดหรือเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างไรก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ



ROOT FIVE “大逆転”を狙う覚悟
ROOT FIVE การเตรียมใจเพื่อหาโอกาสที่จะ "กลับตาลปัตรไปอย่างสิ้นเชิง"


ROOT FIVE ออกซิงเกิลใหม่ "Daigyakuten Emotion แล้ว"

ROOT FIVE วงที่ตั้งขึ้นมาจากการรวมตัวของสมาชิกที่มีชื่อเสียงในฐานะ utaite จาก Nino Nico Douga นั้น ครบรอบปีที่ 5 ของการเดบิวต์ CD พอดี โดยให้วันที่ 14 ธันวาคมเป็นวันวางจำหน่ายซิงเกิลนี้ ซึ่งเมื่อปรับวงเหลือสมาชิก 4 คนจากการที่ดาโซกุ สมาชิกคนหนึ่งของวงได้ถอนตัวออกไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมปี 2015 แล้ว พวกเขาก็ยังคงทำกิจกรรมอย่างมุ่งมั่นไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ และจากการค้นพบรูปแบบของการเอนเตอร์เทนแบบใหม่ซึ่งมีแต่พวกเขาเท่านั้นที่สร้างได้ ความสำนึกอย่างแรงกล้าในฐานะมืออาชีพก็เติบใหญ่มากยิ่งขึ้น โดยในซิงเกิลครั้งนี้ได้หยิบยกประเด็นใหญ่เรื่อง “การประกาศเลิกเป็น utaite” ขึ้นมา ซึ่งมีความตั้งใจอันแสนเร่าร้อนของพวกเขาอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับการตัดสินใจและการเตรียมใจครั้งใหม่ที่อยู่ในใจกับสมาชิกทั้ง 4 คนที่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า “จากตรงนี้คือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่”

สัมภาษณ์และเรียบเรียง : Mori Hideyuki
ถ่ายภาพ : Ueyama Yousuke
แปลไทย : AniaRovana
ที่มา : http://natalie.mu/music/pp/rootfive
*ห้ามนำบทแปลไปโพสต์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต*






คนเรียกแขกหายไป

──ตั้งแต่ ROOT FIVE มี 4 คนก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว พอลองมองย้อนกลับไปในช่วงนั้นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

Fujitani: มีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นมากจริงๆ ทั้งเรื่องที่เอะกาว่า (นาโอกิ) ได้รับบาดเจ็บในระหว่างนั้น (ได้รับบาดเจ็บที่ตาข้างซ้ายระหว่างการซ้อมในเดือนมกราคมปีนี้) แต่เพราะเป็นช่วงเวลาที่สิ่งที่ควรทำในฐานะ ROOT FIVE ได้ชัดเจนขึ้นมาแล้ว ก็เลยสามารถทำกิจกรรมมาได้อย่างเต็มที่ไม่มีหลงครับ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำสิ่งที่ถ้าไม่ใช่ 4 คนแล้วจะไม่มีทางสำเร็จ อย่างเช่น การที่สามารถตัดสินใจได้ทันทีตอนที่เอะกาว่าได้รับบาดเจ็บก็เช่นกัน ที่ว่า “งั้นรอจนกว่าจะหายเถอะ” คือสำคัญที่วางทุกอย่างไว้แล้วจะได้ทำต่อไปได้โดยไม่ต้องออมแรงกันครับ

Egawa: เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกขอบคุณครับ

──ช่องว่างที่ดาโซกุซังหายไปนั้นน่าจะใหญ่หลวงอยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามีพลังแห่งคำสัญญาที่เหลือเฟืออยู่ใน ROOT FIVE ในตอนนี้มาชดเชยตรงส่วนนั้น

Fujitani: การที่สมาชิกหายไปหนึ่งคนมันก็เป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหมครับ ดาโซกุน่ะเรียกได้ว่าเป็นเสาหลักของ ROOT FIVE แบบเหมือนเป็นเด็กเรียกแขก...

Iwashiro: บอกว่าเด็กล่ะ (หัวเราะ) (หมายเหตุ: คนเรียกแขก ในภาษาญี่ปุ่นคือ 看板娘 (kanban musume) ซึ่งหมายถึงหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าร้านคอยเชียร์และเรียกแขกให้เข้าร้าน โดยคำว่า kanban หมายถึง ป้าย และ musume หมายถึงลูกสาวหรือหญิงสาวอายุน้อย)

Fujitani: ไม่ใช่เด็กสิ เพราะรู้สึกเหมือนเป็นตาลุงเรียกแขกมากกว่า (หัวเราะ) คือในระยะแรกนี่คิดกันว่าตอนไลฟ์ต่อไปนี่จะแย่แบบสิ้นหวังกันเลยหรือเปล่าน่ะครับ

Iwashiro: ที่จริงแล้วพอเหลือ 4 คนก็รู้สึกกันด้วยล่ะครับว่าตอนนั้นคนดูลดลงไปในทันที แต่ว่า ตอนนี้ก็มีแฟนที่กลับมาอีกครั้งกันเยอะด้วย เลยได้ตระหนักว่าอย่างน้อยก็ยังได้รับความสนใจอยู่ ซึ่งตรงนั้นก็เป็นเรื่องน่ายินดีครับ

Komazawa: คือมีส่วนที่พวกเรายึดติดกับที่มีดาโซกุซึ่งมีตัวตนอยู่อย่างใหญ่โตแบบไม่ธรรมดาในบทบาทของมาสคอตของ ROOT FIVE น่ะครับ แต่การที่เขาหายไป ทำให้เรา 4 คนที่เหลือจำเป็นต้องกลับมาค้นหาทิศทางที่ควรจะมุ่งเป้าไปอีกครั้ง แล้วก็เก็บรักษาที่ที่หนึ่งเอาไว้ให้ดีอีกครั้งครับ ดังนั้นโอกาสที่จะได้พูดคุยกันระหว่างสมาชิกก็เลยเพิ่มขึ้น แล้วก็ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าสมัยก่อนครับ


ถึงจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียก็ไม่เป็นไร

──ซึ่งตรงจุดนั้นทำให้สิ่งที่ควรทำในฐานะของ ROOT FIVE รูปแบบใหม่นั้นชัดเจนยิ่งขึ้น ถ้าพูดแบบเป็นรูปธรรมแล้วคือเรื่องแบบไหนกัน?

Komazawa: คือการแสดงให้ได้เห็นถึงการเอนเตอร์เทนที่ไม่ใช่แค่เพลง แต่แน่นอนว่ารวมถึงการเต้น ฉากแอคชั่นและการแสดงด้วย ในทัวร์ของปีนี้ก็ได้ลองทำเรื่องท้าทายแบบนั้นแล้วล่ะครับ เพราะทางฝั่งแฟนๆหรือตัวของพวกเราเองก็มีการตอบรับกันอย่างมาก เลยคิดว่าปีหน้าเป็นต้นไปก็จะทำในตรงส่วนนั้นไปเรื่อยๆ ที่จริงแล้ว สมาชิกทุกคนไม่มีประสบการณ์ด้านแอคชั่นเลย แล้วในด้านทักษะการแสดง ผมกับอิวะชิโระก็ไม่เคยทำ เลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากเหมือนกันครับ

Iwashiro: เพราะฝึกกันหนักก็เลยต้องได้แผลที่ไหนสักแห่งกันทุกอาทิตย์เลยเนอะ

──อิวะชิโระซังวันนี้ก็ใส่เฝือกที่ขาด้วยนี่นะ

 Iwashiro: อันนี้คือเพิ่งบาดเจ็บตะกี้น่ะครับ ใส่มาสดๆร้อนๆเลย

Fujitani: อือ แต่นั่นรู้สึกไม่เหมือนว่าเป็นบาดแผลจากการฝึกเลยนะ (หัวเราะ)

Iwashiro: นั่นสินะ พอทำหลายๆครั้งเข้าเพื่อจับเทคนิคการตีลังกา สุดท้ายก็หายเรียบหมด ประมาทไปน่ะครับ (หัวเราะ)

──ฮ่าๆๆ (หัวเราะ) แต่ว่า ถึงจะเป็นภาระกับตัวเองที่ต้องฝึกหนัก แต่ในฐานะ ROOT FIVE ถือว่าได้วิธีการดึงดูดแบบใหม่สินะ

Egawa: ใช่แล้วครับ ตอนนี้พอมาคิดดู ตอนสมัย 5 คนนั้นเรามีตัวเลือกมากมาย เพราะงั้นก็เลยตัดสินใจเด็ดขาดไม่ได้น่ะครับ แต่ว่า การที่คนหายไปหนึ่งคนน่าจะเรียกว่าทำให้ทางหนีหายไปโดยสิ้นเชิง ถ้าอย่างนั้นแล้วพวกเราก็ควรจะมั่นใจว่าเรากำลังมุ่งไปยังทิศทางที่ควรจะมุ่งไป ควรตัดสินใจเพื่อกำหนดเส้นทางที่จะมุ่งไป ซึ่งในส่วนนั้น การที่ ROOT FIVE เหลือ 4 คนจาก 5 คน ทำให้เราเติบโตขึ้นอย่างมากเลยครับ เพราะอยู่ในสถานะที่สามารถพูดได้ด้วยความมั่นใจกับทุกคนแล้วว่า “สิ่งที่พวกเราอยากทำในตอนนี้คือสิ่งนี้น่ะ”

Fujitani: อืม สมมติว่าจะบอกว่าสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่นี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียก็ได้นะครับ เพราะสิ่งที่พวกเราอยากทำนั้นมันชัดเจนแล้วไม่ว่าจะมีความคิดเห็นแบบไหนก็ตาม แล้วก็ เพราะเป็นจุดยืนที่เรียกได้ว่าได้คืนกำไรให้กับหลายคนที่ตามพวกเรามาด้วยเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ดีที่สุด การที่คิดได้แบบนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากจริงๆสำหรับ ROOT FIVE ครับ


การเตรียมใจเพื่อ  “ประกาศเลิกเป็น utaite”

──การปล่อยซิงเกิลใหม่ “Daigyakuten Emotion” ในครั้งนี้ คือการกล่าวถึงการตัดสินใจและการเตรียมใจครั้งใหม่ของ ROOT FIVE แถมประเด็นของผลงานชิ้นนี้คือ “การประกาศเลิกเป็น utaite” ด้วย

Fujitani: เทียบกันแล้วเป็นประเด็นที่ไม่สอดคล้องกันสินะครับ เพราะสำหรับคนที่คอยสนับสนุนพวกเรามาตั้งแต่แรกแล้ว ก็จะกลายเป็นว่า “เอ๊ะ จะทำให้แบ็คกราวน์ที่เป็น utaite หายไปอย่างนั้นหรือ?” ยิ่งไปกว่านั้นก็อาจจะเป็นการโปรโมทที่ไม่ดีทั้งกับคนที่ไม่รู้ว่าพวกเราเกิดจากที่ไหนด้วย ดังนั้นก็เลยคิดว่าจะให้ทราบเรื่องการเตรียมใจที่มีอยู่น่ะครับ

──ความตั้งใจจริงที่ตัดสินใจแล้วตรงนั้นคือเรื่องแบบไหนกัน?

Fujitani: ประเด็นคือการแสดงความตั้งใจว่า จะลอกป้ายคำว่า “Utaite” ที่ติดอยู่ออกนะ บรรดาแฟนๆนั้น ทุกคนคอยสนับสนุนโดยไม่ลำเอียงก็จริง แต่สำหรับตัวพวกเราเองนั้นอาจจะเรียกว่าไม่ได้มีส่วนที่รู้สึกเป็นปมด้อยจากการที่พวกเราถือกำเนิดมาจาก utaite เลยสักนิด

Egawa: คือคำว่า “Utaite” นั้นเป็นสาเหตุว่าถึงทำเรื่องที่นอกเหนือจากการร้องเพลงไม่ได้ก็ไม่ว่าอะไรน่ะครับ ดังนั้นพวกเราในตอนนี้จึงกำจัดที่ที่ถูกตามใจจากตรงนั้นออก เพราะอยากจะภูมิใจในฐานะของศิลปินครับ คือไม่ได้ว่าตัวเองที่เป็น Utaite นั้นดีหรือไม่ดี แค่อยากจะปัดอิมเมจแบบนั้นที่ติดตัวพวกเราอยู่ออกไปน่ะครับ

 ──5 ปีแล้วตั้งแต่เดบิวต์ CD มา ก็โดนว่ามาเยอะในเรื่องที่เกิดมาจากอินเตอร์เน็ตใช่ไหม?
 
Komazawa: ครับ ซึ่งนั่นก็ทำอะไรไม่ได้

Fujitani: การวิพากษ์วิจารณ์แบบนั้นมันก็สะดุดตาในบรรดาความคิดเห็นมากมายนะครับ ดังนั้น จนถึงตอนนี้ก็เลยปล่อยผ่านความคิดเห็นแบบนั้นไปเท่าที่จะทำได้ครับ เพราะถึงคิดจะกำจัดอะไรพวกนั้นออกไป แต่พวกเราก็ไม่มีอะไรที่แน่ชัดที่จะตอบกลับไปได้ แต่ตอนนี้เพราะได้ทำสิ่งที่จะเอามาแสดงให้เห็นได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็เลยพูดได้ว่า “ประกาศเลิกเป็น utaite” ครับ

──เพราะจนถึงตอนนี้ ตัว ROOT FIVE เองนั้นก็มีการเคลื่อนไหวในฐานะของ utaite ด้วยเหมือนกันนี่นะ ตรงนั้นอาจทำให้ตัดสินใจได้ลำบาก

Iwashiro: อ๊ะ ก็จริงนะครับ เพียงแต่ว่าความนัยที่แฝงอยู่ที่เรียกว่าความหวังของบรรดาคนรอบข้างมันแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าความรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของตัวเองน่ะครับ

Komazawa: หลังจากที่พวกเราเดบิวต์ ความนิยมของ Utaite ก็สุดยอดจริงนะครับ แต่ว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงเร็ว แล้วสภาพการณ์ของสังคมก็เปลี่ยนไป ตอนนี้การเขียนติดไว้ที่หลังแค่ว่าถือกำเนิดมาจากอินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้ง่ายแล้วล่ะครับ เพราะอย่างนั้น พวกเราตอนนี้ถึงได้ทิ้งตรงนั้นและอยากทำกิจกรรมโดยตระหนักถึงความเป็นศิลปินมืออาชีพ โดยจะใช้ซิงเกิลในครั้งนี้เพื่อให้ตระหนักไปพร้อมกับที่เราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงจากปีที่ 6 เป็นต้นไปนะ


เขียนความรู้สึกของ ROOT FIVE ออกมาเป็นเนื้อเพลง

──เพลงที่เป็นหัวข้อของซิงเกิล “Daigyakuten Emotion” นั้น คือเพลงที่ฟูจิทานิซังเขียนขึ้นโดยใช้ความรู้สึกในฐานะของวงสินะ

Fujitani: ครับ ในตอนแรกจะขอให้นักแต่งเพลงแต่งให้ แต่คิดดูแล้วการจะถ่ายทอดข้อความที่อยู่ในเนื้อเพลงนี้ให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างให้ออกมาได้ 100% นั้น แน่นอนว่าพวกเราก็ต้องเขียนกันเองครับ ดังนั้นผมก็เลยอาสาว่าจะเขียน แต่ถึงเป็นโคมะซาว่าคุงก็ดีเหมือนกัน

Komazawa: ไม่ล่ะ! ผมน่ะพูดแต่เรื่องดื่มเหล้าในทวิตเตอร์อยู่ตลอด ถึงจะเขียนข้อความแบบนั้นออกมาก็ไม่มีพลังโน้มน้าวหรอกนะ (หัวเราะ) ดังนั้นเป็นฟูจิทานิที่เขียนเนื้อเพลงแบบตรงไปตรงมาได้เก่งและใช้ประโยคได้หลากหลายน่ะดีแล้ว

Iwashiro: เพราะฟูจิทานิซังก็ทวิตร้อนแรงแบบเนื้อเพลงนี้เป็นปกติอยู่แล้วเนอะ
 
Fujitani: แต่เพราะเอามาเข้ากับหัวข้อก็เลยรู้สึกกดดันแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนไงครับ คือคิดเอาไว้เยอะแยะก็จริงแต่ถ้าพูดมากเกินก็ไม่สื่อ แล้วส่วนที่จะทำให้ติดหูก็สำคัญ วิธีการรักษาสมดุลย์นั้นน่ะมันยากมาก


Egawa: เพราะความรู้สึกในฐานะของวงนั้นถึงจะชัดเจน แต่ก็มีความยากในการถ่ายทอดสิ่งนั้นออกมาเป็นคำพูดสินะ ผลสุดท้ายแล้วก็คิดว่าเขียนเนื้อออกมาเป็นรูปร่างได้ดีมากเลยครับ

──ถ่ายทอดความรู้สึกของ ROOT FIVE ในเวลานี้ออกมาอย่างตรงๆเลยสินะ

Iwashiro: ตัวผมเองโดยพื้นฐาน ปกติจะไม่สนใจเนื้อเพลงเลยครับ แต่ครั้งนี้คือตั้งใจอ่านมากเลยนะ แล้วก็มีจุดที่คิดว่า “อา นั่นสินะ” อยู่เยอะด้วย ผมเป็นคนไม่เก่งการอ่านก็เลยมีตรงโน้นตรงนี้ที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง แบบว่า “ถึงไม่เข้าใจความหมายแต่ก็เป็นเพลงที่ดีนะ”

Egawa: โกหกน่า? (หัวเราะ)

Fujitani: ไหนลองยกตัวอย่างหน่อยซิว่าไม่เข้าใจตรงไหน? (หัวเราะ)

Iwashiro: อย่างตรง “kimi dake no Big star ienai kizu mo” (ดาวดวงใหญ่แค่เพียงของเธอเท่านั้น แม้จะเป็นบาดแผลที่ไม่มีทางรักษา) นี่ไม่เข้าใจสุดๆ

Komazawa: แย่สุดๆ (หัวเราะ)

Fujitani: ต้องอ่านข้างหลังต่อไปจนถึงตรง “samenai ai mo kono te de dakishime shinjitai” (แม้แต่ความรักที่ไม่ชืดชา อยากจะโอบกอดไว้ด้วยมือคู่นี้และเชื่อมั่น) นะ “ienai kizu” นี่คือ “อดีตที่พวกเราแบกรับเอาไว้ไม่ไหว” ส่วน “samenai ai” นี่มีความหมายถึง “แฟนๆทุกคน” ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ช่วยสนับสนุนน่ะนะ เพราะงั้นทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ “อยากจะโอบกอดไว้ด้วยมือคู่นี้และเชื่อมั่น”

Iwashiro: อ๊ะ อย่างนี้นี่เอง เท่จังเนอะ!

──สเน่ห์ที่มากที่สุดของเนื้อเพลงครั้งนี้รวมถึงข้อความที่อบอุ่นถึงแฟนๆด้วยสินะ

Fujitani: ผมตระหนักถึงตรงนั้นครับ คือคิดว่าจะสร้างความรู้สึกขอบคุณเป็นหลักที่ใช้แสดงถึงการตัดสินใจของพวกเราต่อบรรดาแฟนๆ

──เข้ากับท่อนที่ว่า “anata ga zutto hokoreru youni mou nigenai yo” (เพื่อให้เธอภูมิใจได้เสมอ เราจะไม่หนีอีกแล้ว)

Komazawa: ดีเนอะครับ เพราะถ้าเป็นคำพูดแล้วมันพูดยาก แต่พอทำให้มันเป็นเนื้อเพลงแล้วก็สามารถถ่ายทอดออกไปได้อย่างเต็มที่

Fujitani: นั่นก็เพราะเป็นลักษณะที่ต้องมีในดนตรีน่ะเนอะ
 

เร่าร้อนกว่าเดิมอีกขั้น

──การอัดเสียงเป็นอย่างไรบ้าง

Komazawa: ครั้งนี้ทุกคนร้องอย่างเร่าร้อนกว่าที่ผ่านมาครับ เสียงก็ให้ความรู้สึกเร่าร้อนกว่าเดิมอีกขั้น

Iwashiro: คือโดนบอกว่า “ใส่(พลัง)เข้าไปอีก!” เลยค่อนข้างจะใช้วิธีร้องตะโกนเอา ในฐานะของ ROOT FIVE แล้วก็เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดผิดคาดนะครับ
 

Fujitani: ในส่วนของงานคอรัสก็อัดเสียงเยอะ เลยค่อนข้างลำบากอยู่ครับ แต่ก็สนุกนะ การอัดเพลงนี่ผมได้อัดคนแรกเลยครับ เพราะสามารถอิมเมจในตัวเองถึงความแตกต่างเล็กน้อยของเพลงโดยรวมในฐานะของคนแต่งเนื้อได้ ก็เลยอัดมันไปทั้งอย่างนั้นเลย รู้สึกว่าสมาชิกทุกคนก็ปรับเข้ามาหาตรงนั้นกันอย่างดีครับ

Egawa: ผมอัดเป็นคนที่สอง เลยร้องแบบใส่พลังมากกว่าฟูจิทานิสองเท่าครับ

Iwashiro: ผมร้องแบบใส่อารมณ์เข้าไปสามเท่า

Komazawa: ผมร้องแบบเมามันไปสี่เท่า

Fujitani: ครับ ครับ ผมที่หนึ่งครับ พวกนายที่มันเอะอะจริง! (หัวเราะ)

──ฮ่าๆๆ (หัวเราะ)

Fujitani: รอบนี้รู้สึกว่าเสียงของเอะกาว่าซังกับอิวะชิโระซังจะร้องแบบสุดระดับเสียงด้วย ก็อยากให้คอยสังเกตในจุดนั้นกันด้วยนะครับ

Iwashiro: อา ร้องง่ายสุดๆจริงๆครับ งานออกมาแบบใส่อารมณ์เต็มที่ตามชื่อเพลงเลยล่ะครับ


ถึงจะเดบิวต์มา 5 ปีแล้วก็ตาม แต่ “ยังไม่มีอะไรเริ่มต้น”

──เพลงที่ 2 ในซิงเกิลคือ “Bremen” เห็นว่าใช้คีย์เวิร์ดที่ว่า “Ongakutai” (วงดนตรี) เป็นชื่อรองของทัวร์ที่จะจัดขึ้นในปีหน้าด้วย เลยคิดว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกันหรือเปล่า

Fujitani”": เพลงนี้ (ฮายาชิ) เคย์ซังที่เราได้รับความกรุณาเสมอมาเป็นผู้แต่งให้ ตอนที่เห็นชื่อมันก็ลอยขึ้นมาเลยล่ะครับ ว่า “อ๊ะ ใส่คำว่า “วงดนตรี” เข้าไปในชื่อทัวร์ด้วยดีไหมนะ” คือนักดนตรีแห่งเบรเมนก็มี 4 ตัวน่ะครับ (หมายเหตุ: หมายถึงนิทานเรื่อง นักดนตรีแห่งเบรเมน ซึ่งชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือ Bremen no Ongakutai)

──อย่างนี้นี่เอง คือคิดขึ้นมาจากชื่อ “Bremen” สินะ 

Fujitani: ครับ แบบว่าเป็นข้อความที่ดีว่าพวกเรา 4 คนจะส่งมอบความรู้สึกในระหว่างการเดินทางทั่วญี่ปุ่นเหมือนกับนักดนตรีแห่งเบรเมนน่ะครับ

Iwashiro: ตอนร้องเพลงนี้เรามาโพสต์ท่าเบรเมนกันทุกคนเลยนะ ผมเป็นลา อีกสามคนก็เป็นสุนัข แมว แล้วก็ไก่ แบบว่ามาต่อตัวรวมกันขึ้นไปมันดูเข้มแข็งจะตาย!

Egawa: ...อิวะชิโระอายุใกล้จะสามสิบแล้วแท้ๆนะ (หัวเราะ)

Komazawa: ไปเรื่องต่อไปเถอะ (หัวเราะ)

──ซาวน์ก็ให้ภาพที่สดชื่นมากๆเลยนะ

Komazawa: ใช่แล้วครับ คือรีเควสต์กับเคย์ซังไปว่าอยากให้ทำให้ตัวเพลงมีอิมเมจของตอนจบของเรื่องหรือทำให้จินตนาการถึงตอนจบที่มีความสุขน่ะครับ เพราะงั้นเลยอยากให้เฝ้ารอดูกันว่าจะใช้ในไลฟ์ช่วงไหน

──ในส่วนที่ร้องว่า “ลาลาลา” นี่นึกภาพทุกคนร้องประสานเสียงขึ้นมาเลยเนอะ

Egawa: อาจจะเล่นเป็นเพลงแรกเลยนะ

Komazawa: จู่ๆก็เป็นตอนจบเลยเรอะ!?

Fujitani: ไม่มีเซนส์เกินไปละ! (หัวเราะ) เพลงนี้ในด้านของเนื้อหาแล้ว ร้องด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับ “Daigyakuten Emotion” แล้วก็มีความรู้สึกที่อยู่ชิดกับหัวข้อที่ว่า “ประกาศเลิกเป็น utaite” ด้วย ท่อนที่ว่า “sono koe no omo yo” (คือแกนหลักของเสียงนั้นนะ) มีความรู้สึกเหมือนเป็นการอุปมาอุปมัยถึงคอมเม้นต์วิพากย์วิจารณ์พวกเรา ส่วนตรงที่ว่า “nani mo hoshigaranai koto sa” (ไม่มีสิ่งใดที่ต้องการ) นั้นก็มีความรู้สึกที่ช่วยอธิบายว่าจะทิ้งศักดิ์ศรีแปลกๆที่พวกเราเคยยึดถือมาตลอดไปเสียและก้าวเดินไปน่ะครับ


──”Daigyakuten Emotion” นั้นมีจุดดึงดูดที่แตกต่างและให้ความรู้สึกถึงการแสดงออกถึงการตัดสินใจของ ROOT FIVE เลยเนอะ ในตอนนี้ที่ผ่านมา 5 ปีหลังจากเดบิวต์แล้ว คิดว่าตรงส่วนที่ร้องอย่างสง่าว่า “mada nani mo hajimacchainai” (ยังไม่มีอะไรเริ่มต้น) นั้นเท่ดี

Fujitani: เพราะมีความรู้สึกที่ว่าในที่สุดก็จะเริ่มต้นจากตรงนี้ของพวกเราอยู่ในนั้นครับ

Egawa: ใช่ ถึงจะเต้น ถึงจะบู๊ ถึงจะแสดงละคร ในตอนนี้ก็รู้สึกจริงๆว่าจะนึกภาพของพวกเราจากตรงนี้ไปและทำไปให้ได้จนถึงจุดที่เกือบจะเป็นขีดจำกัด ซึ่งนั่นมันสนุกมากเลยล่ะครับ




เขียนเนื้อเพลงได้ใน 30 นาที

──แล้วก็อีกหนึ่งเพลง ในเวอร์ชั่น “ten” ที่เป็น CD only นั้น มีงานที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างชื่อ “Zakkin Party” (ปาร์ตี้เชื้อโรค) บันทึกอยู่ด้วย คนแต่งเนื้อเพลงคือโคมะซาว่าซังสินะ

Komazawa: จะพูดถึงเพลงนี้หรือครับ? (หัวเราะ) อันนี้เป็นเพลงที่เกิดมาจากคาแรคเตอร์ “ผู้ชายรักสะอาด” ที่มาจากละครตลกในรายการถ่ายทอดสดทาง Nico Nico Douga น่ะครับ ใช้คำติดหูที่ว่า “zakkin party” ที่พูดในละครตลกบ่อยๆ แล้วก็ใช้ทำนองเพลงแบบปาร์ตี้เหมือนที่เปิดกันในคลับเลยว่ามันน่าจะตลกดีครับ

──แทร็คนี้ก็เท่มากๆเลยนะ แต่เนื้อเพลงในนั้นนี่ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างจะน่าขำ (หัวเราะ) เนื้อเพลงแบบนี้นี่เขียนออกมาได้อย่างราบรื่นเลยหรือ?

Komazawa: เขียนเสร็จในเวลาประมาณ 30 นาทีครับ (หัวเราะ)

Iwashiro: ใน ROOT FIVE บางทีก็มีเพลงแนวนี้อยู่เหมือนกัน ทุกคนเขียนเพลงกันเร็วมากครับ

Komazawa: ใช่แล้ว แต่ว่าครั้งนี้เป็นซิงเกิลสำคัญที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อครบรอบปีที่ 5 และจะพยายามกับสิ่งใหม่จากตรงนี้ ก็เลยสงสัยอยู่ว่าจะเอาเพลงนี้ใส่ลงไปด้วยจะดีจริงๆหรือ (หัวเราะ)

──แต่การแสดงความเป็นวงที่ตลกขบขันในอีกด้านนึงด้วยนี่ก็สำคัญเหมือนกันนะ

Komazawa: นั่นสินะครับ รอบนี้ผมรับหน้าที่เป็นตัวแทนด้านตลกของ ROOT FIVE ครับ (หัวเราะ)


จะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ที่พัฒนาขึ้นมากกว่าไลฟ์

──ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ทัวร์ที่รอคอยก็จะเริ่มขึ้น ครั้งนี้ก็แบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 แบบที่ต่างกันเหมือนกับทัวร์ในปีนี้สินะ

Fujitani: ครับ ก่อนอื่นใน “ROOT FIVE STORYLIVE 2017“Q”~Hoshi no KAKERA to Ongakutai~ (เศษเสี้ยวของดวงดาวกับวงดนตรี) ทัวร์ของผู้บุกเบิกจะเดินทางไปยังดวงดาว 16 ดวงเพื่อตามหาตัวตนที่แท้จริงและสมบัติ” ที่จะวนไปหลายสถานที่ทั่วประเทศนั้น จะเป็นไลฟ์ผสมผสานองค์ประกอบของหลายๆอย่างที่ปกติไม่ได้พบเจอกับแฟนมีตติ้งที่สนุกสนานเข้าด้วยกัน มีการเล่นที่เหมือนเกมในแต่ละสถานที่ที่จัด แล้วก็เอาสิ่งที่ได้จากสถานที่ทั้ง 16 แห่งนั้นมาใช้ในทัวร์ต่อไปครับ

──ทัวร์อีกหนึ่งอันมีหัวข้อว่า “ROOT FIVE STORYLIVE 2017“A”~Four Elements:Four Braves~” เป็น “A” อะไรสักอย่างกับ “Q” ในทัวร์ก่อนหน้า สรุปคือเป็นการแสดงถึง “คำตอบ” สินะ

Fujitani: เป็นแบบนั้นครับ ในฝั่งของ “Q” นั้น พวกเราจากนี้ไปจะแสดงให้เห็นถึงไลฟ์ในรูปแบบใหม่ที่ใกล้เคียงกับการแสดงละครเวทีเป็นแกนหลัก ที่นาโงย่าและโอซาก้านั้นเป็นเวทีโรงละคร ดังนั้นเลยคิดว่าจะพัฒนาให้ได้เห็นกันมากขึ้นยิ่งกว่าที่เล่นปีนี้ แล้วก็คิดว่าเป็นการต้อนรับตอนจบที่สุดยอดที่ Toyosu PIT ในวันสุดท้ายด้วย 

──เรื่องราวอันยิ่งใหญ่จะถ่ายทอดผ่านทัวร์ทั้ง 2 นี้ แนะนำให้เข้าร่วมทั้งสองทัวร์เลยสินะ

Fujitani: ครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ดูทั้งคู่เลยครับ แต่ว่า ในระหว่างทัวร์จะมีการเล่าถึงความประทับใจของแต่ละไลฟ์โดยใช้ SNS ด้วย ถึงจะเป็นคนที่ได้ดูแค่แบบเดียวหรือคนที่ไม่ได้ดูทั้งสองแบบก็อยากให้ทุกคนมีช่วงเวลาที่สนุกสนานไปกับ ROOT FIVE ด้วย ช่วยรอกันด้วยนะครับ!


Post a Comment

0 Comments