[TRANS] koma’n blog @ROOT LOVERZ (1)

 

     ห่างหายจากการอัพบล็อกไปพักใหญ่เนื่องจากขี้เกียจ(?) ไม่ใช่ละ… มีหลายๆอย่างที่ต้องทำค่ะ วันนี้เลยเอาบล็อกจาก ROOT LOVERZ (เว็บแฟนคลับอย่างเป็นทางการของ ROOT FIVE) ของโคมังมาอัพค่ะ

     จริงๆแล้วบล็อกนี้เนี่ย สมาชิกทั้ง 5 คนจะเข้ามาอัพเป็นระยะๆค่ะ แต่เราไม่สามารถแปลของทุกคนได้ ส่วนใหญ่ที่เลือกมาแปลจะเป็นของเมนตัวเอง (ซึ่งก็คือโคมังนั่นแหละ = = ลำเอียงค่าาาาา) ซึ่งบอกไว้ก่อนว่าเราไม่ได้แปลเรียงตามลำดับที่อัพทั้งหมด แปลตามความสะดวกของตัวเองเป็นหลักซึ่งอาจมีกระโดดไปกระโดดมาบ้าง และเราจะแปะเฉพาะบล็อกที่เราเห็นว่าประเด็นน่าสนใจ รวมถึงไม่แปะรูปประกอบบล็อกตามกฎของเว็บแฟนคลับใดๆทั้งสิ้นนะคะ

     จริงๆแล้วมีแผนจะแปลของเคตทาโร่ด้วยเพราะเป็นคนที่เขียนบล็อกได้น่าสนใจอีกคนนึง แต่บล็อกของเคตทาโร่ก็เป็นอะไรที่ยาวมาก ยาวไม่แพ้โคมังเลยค่ะ ยังไงติดไว้รอบหน้าเนอะ ;p

     เกริ่นมาเยอะแล้ว ไปอ่านกันได้เลยค่ะ ถ้ามีแปลผิดหรือแปลกๆยังไงขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ และห้ามเอาข้อความในนี้ทั้งหมดไปแปะที่อื่นนะคะ

 

CIv4Lt5VAAEBy2S
(ภาพจาก https://twitter.com/komankoman/status/615858657754939393)

 

2014.11.05
僕、koman'です。
ผม koma'n ครับ

 

ผม koma'n ครับ
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับว่าทำไมผมถึงชอบเซเลอร์เมอร์คิวรี่
และทำไมผมถึงอยากเป็นเซเลอร์เมอร์คิวรี่นะครับ

ตัวผมตอนสมัยอนุบาล ผมเคยอธิษฐานขอให้ได้เป็นเซเลอร์เมอร์คิวรี่ทุกวัน
อยู่ที่ด้านหลังของที่แขวนถุงผ้าใส่ชุดพละ

แต่ว่าผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงชอบเซเลอร์เมอร์คิวรี่ถึงขนาดนั้น
แล้วในความเป็นจริงผมก็ไม่ได้ดูเซเลอร์มูนทั้งหมดด้วยครับ

แต่สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของผมมีแค่เรื่องที่ว่า พอผมตื่นขึ้นมาแล้วเข้าไปในห้องนั่งเล่นตอนกลางดึก
ผมก็เห็นพ่อกำลังนั่งร้องไห้ตอนกำลังดูเซเลอร์มูนตอนสุดท้ายอยู่ครับ

และจากตอนนั้น ก็ผ่านมา 18 ปี...
เซเลอร์มูนกลับมาบูมในสังคมอีกครั้ง
และได้เรียกความทรงจำที่หลับอยู่ในส่วนลึกของผมขึ้นมา

สีประจำตัวผมใน ROOT FIVE ก็เป็นสีน้ำเงิน
รู้สึกว่าเป็นพรหมลิขิตแบบน่าแปลกที่เซเลอร์เมอร์คิวรี่ในเซเลอร์มูนก็เป็นสีน้ำเงินพอดี
ทำให้ผมสาบานว่าจะเป็นสนับสนุนเมอร์คิวรี่ขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ว่า ด้วยอายุตอนนี้ และยิ่งไปว่านั้น
ก็มีคนมากมายที่สงสัยเกี่ยวกับ
การที่ผมเป็นผู้ชายและคอยสนับสนุนเซเลอร์เมอร์คิวรี่
จริงๆแล้วช่วงนี้ แม้แต่รีพลายในทวิตเตอร์ก็มีคนมากมายที่เป็นห่วงผมอย่างจริงจังครับ

แต่ว่า ผมยังสนับสนุนเซเลอร์เมอร์คิวรี่
และทำไมยังแกล้งเล่นเป็นเซเลอร์เมอร์คิวรี่ตัวจริงนั้น...
to be continued…

Divider_Stars

2014.12.12
僕、koma'nです。2
ผม koma'n ครับ 2

 

ผม koma'n ครับ
จะมาเล่าเรื่องเซเลอร์เมอร์คิวรี่ต่อจากครั้งก่อนนะครับ
ทำไม ผมถึงได้ทำตัวให้น่าเป็นห่วงถึงขนาดนี้กัน...

ทำไมกันนะ...

ตัวผมเองนั้นมีส่วนที่อยากจะถูก(คนอื่น)คิดว่าเป็นคนแปลกๆสักหน่อย! มาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วครับ
อย่างเช่น ถึงจะทวีตเกี่ยวกับคลามคืบหน้าของงานเพลงที่กำลังทำอยู่ที่บ้าน
แต่ผมว่ามันไม่สนุก

งานของศิลปินนั้น แน่นอนว่า
ผมว่าถ้าไม่ทำให้คนอื่นคิดว่า คนคนนี้มันเจ๋ง! ได้แล้วล่ะก็
คงจะกลายเป็นคนที่ไม่มีสเน่ห์ไปน่ะครับ (จริงจัง)

เพราะแบบนั้น ทุกๆวันก็เลยตั้งใจทวีตแต่พวกเรื่อง
อยากเป็นเซเลอร์เมอร์คิวรี่
สนุกกับการเล่นเกม Super Smash Bros. และ Mario Kart
สนุกกับการเล่นกดฟองที่ลอยขึ้นมาในอ่างอาบน้ำ น่ะครับ

เพราะผมเป็นพวกที่ชอบพูดว่าไม่อ่านหนังสือสอบแต่ก็สอบได้คะแนนท็อปของระดับชั้น
ในเรื่องงาน ผมก็ทำอย่างจริงจัง แม้จะอายุ 22 ปีแล้วก็ยังคงกวนตีนคนโน้นคนนี้ก็จริง
แต่เรื่องงานผมก็ตั้งใจที่จะเป็นคนพูดได้ว่าตั้งใจทำอย่างจริงจังทุกวันเลยนะเนี่ย นะครับ!!!!

koman'ครับ

Divider_Stars

2015.06.02
アイドル論
ทฤษฏีไอดอล

 

ที่บูทของเอเวกซ์ในงาน Choukaigi เมื่อวาน
ผมได้คุยเรื่องไอดอลกับ Mai Endo ซัง และ Yurika Tachibana อดีต Idoling!!! ครับ
แต่ว่ามีเวลาจำกัดก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่
ผมก็เลยว่าอยากจะลองคิดทฤษฏีไอดอลของตัวเองดูสักหน่อย
หัวข้อในครั้งนี้เลยตั้งว่า "ทฤษฏีไอดอล" ครับ
เรื่องที่จะพูดคือเรื่องของไอดอลหญิงนะครับ

สิ่งที่ช่วงนี้เราพบเห็นกันได้บ่อยคือ การตั้งเป้าว่าจะเป็น "ไอดอล"
ซึ่งที่ผ่านมานั้นการบอกว่า "จะเป็นไอดอล" เนี่ย จะต้องมีทั้งความพยายามและโชค
และมีคนแค่หยิบมือเดียวจริงๆที่ "ได้รับรางวัล" นั้นไป

แต่ว่า ปัจจุบันนี้การเป็นไอดอลนั้นง่ายกว่านั้นครับ
จะได้ยินเรื่องที่คุยกันบ่อยๆเลยว่า "เด็กคนนั้นที่อยู่ห้องข้างๆน่ะ เห็นว่าเป็นไอดอลล่ะ〜"
อาจจะมีบรรดาเพื่อนในชั้นหรือบรรดาคนในโรงเรียนที่ส่งเสียงมาว่า "ไอดอลงั้นเรอะ〜สุดยอ〜ด!"
แต่ทุกคนก็คงไม่ได้ฮือฮาอะไรมากมาย

คนที่ "จะเป็นไอดอล" ในปัจจุบันนั้น สำหรับผมแล้วเป็นคนที่เหมือนกับ "นักเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัย"
พยายามก็จริง แต่คือถ้าพยายามก็จะเข้าได้...ประมาณนั้น....
ในจุดที่เข้าไปอยู่ในโลกของไอดอลที่เป็นมหาวิทยาลัยเช่นนั้นก็คือพอใจแล้ว

ความรู้สึกประมาณว่า
"ว้าว สุดยอーด!อยู่มหาวิทยาลัย ●● นี่นะ! หัวดีสินะ!"
เหมือนกับ
"ว้าว ไอดอลสินะ!น่ารักจัง!"

เป็นแบบนั้นล่ะครับ

จากตรงนั้นทำให้ผมคิดว่ามหาวิทยาลัยกับไอดอลเหมือนกันตรงที่ "เข้าไปแล้วจะทำอะไร" น่ะครับ

อย่างเช่น เข้ามหาวิทยาลัยแล้วถ้าทิ้งการเรียนเที่ยวเล่นจนเรียนซ้ำชั้นเพราะหน่วยกิตไม่ถึง
เมื่อจะจบการศึกษาก็จะยิ่งแย่กว่าตอนจะเข้าเรียนเสียอีก
ทั้งที่แต่แรกเริ่มแล้วเข้ามาเพื่อจะเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากทำแท้ๆ
พอเข้าได้แล้วก็พอใจ แล้วก็ค่อยๆสอบตกไปเรื่อยๆ
ซึ่งเส้นทางของคนที่แย่ๆเหล่านั้นมักพบเห็นได้บ่อยแม้แต่ในโลกของไอดอล

คนที่เรียกว่าไอดอลนั้น แม้จะเป็นไอดอลก็ตาม แต่ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน
ดังนั้น ส่วนตัวแล้วผมอยากให้อย่างน้อยที่สุดก็ได้เรียนรู้ในฐานะมนุษย์อย่างจริงจังน่ะครับ

อาชีพพิเศษที่เรียกว่าไอดอลเนี่ย มีคนที่เข้ามาตั้งแต่เด็กอยู่มากมาย
ดังนั้นจึงไม่มีชีวิตแบบธรรมดา เวลาที่สามารถเรียนได้ก็มีน้อย
พอคิดว่าธรณีประตูของสิ่งที่เรียกว่าไอดอลนั้นปัจจุบันมันเตี้ยลงมาแล้ว
ดังนั้นก็เลยยิ่งอยากให้ตระหนักถึงความเป็นมืออาชีพเอาไว้ให้ดี

ทำอะไรได้บ้างในช่วง 4 ปี
ถึงจะเคลียร์งานในฐานะไอดอลแล้วก็ตาม
ผมก็คิดว่าการตั้งใจเรียน (รวมถึงการเรียนในฐานะของไอดอลด้วย) นั้นเป็นสิ่งสำคัญครับ
หากคิดว่าในระหว่างนี้อยากทำงานนี้ไปชั่วชีวิต! แล้วล่ะก็
ถ้ามีเป้าหมายว่าจะเป็นพวกนักแสดงหรือนางแบบซึ่งให้ความรู้สึกว่ามันเป็นอาชีพล่ะก็คงจะดีกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น หากคิดว่า อยากเป็นไอดอลให้ถึงที่สุด! แล้วล่ะก็
ก็ให้ความรู้สึกเหมือนการเรียนต่อบัณฑิตวิทยาลัย
และควรทุ่มเทให้กับสิ่งที่เรียกว่า"ไอดอล"ครับ

ไอดอลนั้นเป็นโลกที่แสนวิเศษก็จริง
แต่ผมว่าการเข้ามาทั้งที่ยังไม่รู้อะไร
ทั้งอนาคต ทั้งความจริงของไอดอล
มันเป็นอะไรที่น่าสงสารนะครับ
ทั้งที่แค่หลงใหล สนใจก็เลยเข้ามา
แต่ในตอนนี้เมื่อถึงวัยที่ได้รับรู้ความจริงพวกนั้นขึ้นมา ก็รู้ตัวว่าไม่อาจกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้อีกแล้ว
ลำบากเนอะครับ〜〜

แต่ว่า ไอดอลเนี่ย ช่วงวัย 10 ปีเป็นช่วงที่เบ่งบาน...
แต่ว่า ก็มีผมที่ชอบไอดอลที่เป็นแบบนั้นอยู่...
ถ้าไม่มีไอดอล ไอดอลโอตะคุที่รวมผมเข้าไปด้วยนี่ก็จะลำบาก...

ยากจังเลย〜น้า〜

ยากจังเนอะ〜

อืม

 

 

จบเท่านี้ครับ

koma’n

Divider_Stars

2015.07.06
2015.07.06 koma'n

 

โคมังซังเป็นโฮโมฯ (คนรักเพศเดียวกัน)

ช่วงนี้มีข่าวลือใหญ่โตว่าอย่างนั้น
แล้วก็โดนถามมาเยอะเลยว่าเป็นโฮโมฯจริงๆใช่ไหม?

จากข้อสรุปแล้ว ไม่ได้เป็นโฮโมฯครับ

ไม่ได้พูดเล่นลิ้นว่า ไม่ใช่โฮโมฯแต่เป็นเกย์ล่ะ
ผมชอบเด็กผู้หญิงครับ

ถึงจะไม่ได้อคติกับคนที่รักเพศเดียวกัน
แล้วก็มีเพื่อนที่เป็นเกย์อยู่เยอะก็ตาม
แต่เพราะตัวเองไม่ได้เป็นโฮโมฯ
ก็เลยอยากหาเหตุผลและคำอธิบายแบบละเอียด
เพื่อปัดข้อสงสัยนั้นทิ้งไปครับ

ข้อแรกคือ การรับรู้ในด้านความงาม

ผมชอบพวกดนตรี ภาพวาด ภาพถ่ายมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว
จึงใช้มุมมองนั้นในการมอง “ความงาม” ที่มีอยู่ในโลกใบนี้ครับ

(มองว่า)หนุ่มหน้าตาดีคนนี้งดงาม
เหมือนกับ
ท่วงทำนองนี้งดงาม ดอกไม้ดอกนี้งดงาม

เนื่องจากมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในนิสัย
ผมจึงชอบผู้ชายหน้าตาดีในฐานะสิ่งที่น่าหลงใหล
การชอบไอดอลก็เช่นกัน เพราะหลงใหลจึงชอบครับ

เพราะฉะนั้น เวลาที่โดนถามว่า สนใจอวัยวะเพศชายไหม?
คำตอบจึงเป็นปฏิเสธครับ

เพราะถึงแม้จะเป็นอวัยวะเพศที่เพียบพร้อมแค่ไหน
แต่ข้างในของโคมังซังไม่ได้มองว่ามัน “งดงาม” ครับ
ดังนั้นจึงสรุปได้เช่นนี้ครับ

ต่อมา ทำไมถึงไปบาร์เกย์?

สำรับโคมังซังแล้ว ในบรรดาสิ่งที่ให้ความสนใจนั้น
มีแนวโน้มที่จะแสดงความสนใจออกมาทั้งหมด

เป็นคนประเภทที่ปกติจะไม่ค่อยไปดื่มกับคนสนิท
และชอบคุยกับคนแปลกหน้าที่เคาเตอร์ร้านเหล้า
แล้วก็จะผูกมิตรกับคนที่คิดว่าน่าสนใจครับ

ซึ่งผมสนใจเกย์มาก

เรื่องมากมายทั้งโลกที่มองเห็นเพราะได้รู้จักวิธีการรักในแบบของชนกลุ่มน้อย หรือชีวิตที่เข้มแข็งของคนที่ผ่านความยากลำบากในญี่ปุ่นซึ่งยังมองคนรักเพศเดียวกันด้วยอคตินั้นเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์และน่าสนใจครับ

ผมจึงถูกดึงเข้าไปในระหว่างที่จ้องมองดวงตา(ซึ่งเกย์นั้นขนตายาวและตาขาวสวย)เป็นประกายซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเกย์ในระหว่างที่เล่าเรื่องเหล่านั้นโดยไม่ทันรู้ตัวครับ

จากเหตุผลในข้างต้น ผมจึงชอบผู้ชายหน้าตาดีและคนที่เป็นเกย์ครับ

ร่างกายของโคมังซังยังบริสุทธิ์ครับ

Post a Comment

0 Comments