สวัสดีค่า กลับมาพบกับแปลบทสัมภาษณ์สั้นๆ ของสมาชิก Hello! Project กันอีกเช่นเคยนะคะ ช่วงนี้งานแปลอาจจะมาถี่กว่ารีวิวหนังสือสักหน่อย เพราะค่อนข้างยุ่งหลายอย่างจนแทบไม่มีเวลาได้จับหนังสืออ่านเลยค่ะ 😓 ส่วนแปลนี่คือตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำ ก็ไม่อยากให้ขาดความต่อเนื่องไป
ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นคิวของคาไซ ยูมิ สมาชิกใหม่วง Tsubaki Factory ในคอลัมน์ Monthly Hellotsu ในนิตยสารฟามิซืออีกเช่นเคยค่ะ เหตุผลที่แปลเจ้านี้สม่ำเสมอเพราะเป็นสัมภาษณ์สั้นๆ ใช้เวลาไม่นานมากและภาพสวย ซึ่งภาพที่ลงประกอบในบล็อกจะเป็นภาพที่เรานำมาจากทวิตเตอร์ของทางฟามิซือเอง (ที่นี่) ในส่วนของบทแปล เราแปลแบบไม่ได้เป๊ะมาก แปลเพื่อฝึกด้วยแพชชั่นส่วนตัว เอาตามความเข้าใจและพยายามเรียบเรียงให้อ่านง่ายเท่าที่จะทำได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ
*ห้ามนำบทแปลในบล็อกนี้ไปโพสต์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต*
— คราวนี้เราลองมาถ่ายกันที่สตูดิโอแนวคลาสสิกที่ห้อมล้อมไปด้วยของแอนทีคแบบยุโรป และแต่งหน้าแบบที่คาไซซังกำลังชอบในช่วงนี้ด้วย
คาไซ : ฉันชอบประวัติศาสตร์ค่ะ ตอนสมัยม.ปลายเคยเรียนประวัติศาสตร์โลกด้วย ก็เลยสนุกมากๆ ค่ะ! ฉันกำลังเรียนรู้หลายๆ เรื่องทั้งการแต่งหน้าและเครื่องสำอางอยู่ และตั้งเป้าว่าจะพยายามเอาคุณวุฒิในด้านเครื่องสำอางและความงามอยู่ค่ะ
— คาไซซังที่บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ เคยพูดถึงความรักที่มีต่อลูกพีชในสถานที่ดังๆ นี่นะ รู้สึกว่าในนั้นจะบอกว่าชอบลูกพีชแบบแข็งๆ ด้วย
คาไซ : ฉันชอบลูกพีชแข็งๆ มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ! แค่ล้างเอาขนอ่อนออกแล้วกินทั้งเปลือกแบบนั้นเลยค่ะ~
— เอ๋! ทั้งเปลือกงั้นหรือ!? การกินทั้งเปลือกมีข้อดีอะไรหรือเปล่า…
คาไซ : ธรรมชาติ รู้สึกได้ถึงธรรมชาติค่ะ (หัวเราะ) แน่นอนว่าฉันชอบพีชแบบนิ่มๆ ด้วยเหมือนกัน แต่ก็อยากนำเสนอลูกพีชแข็งๆ ในฐานะที่บ้านเกิดอยู่ในจังหวัดยามานาชิด้วยค่ะ บ๊วยดองเองยังมีทั้งแบบนิ่มๆ แล้วก็แบบกรอบๆ สองชนิดเลยนี่คะ
— จริงด้วย…! คาไซซังเคยบอกว่าเวลากลับบ้านเกิดจะไปช่วยเกี่ยวข้าวด้วย แต่เดิมแล้วเป็นสายรักธรรมชาติสินะ
คาไซ : ที่ที่ฉันเกิดและเติบโตมาล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทุ่งนา เลยรู้สึกว่าธรรมชาติอยู่ใกล้ตัวเสมอค่ะ วิถีชีวิตประมาณว่าผักก็ได้คนแถวบ้านแบ่งเอามาให้ นอกจากเนื้อแล้วก็ดำเนินชีวิตด้วยการหาเลี้ยงตัวเองกันได้ค่ะ (หัวเราะ)
— จากวิถีชีวิตแบบนั้น อะไรคือสาเหตุให้ตั้งเป้าหมายที่จะเข้า Hello! Project ล่ะ?
คาไซ : ช่วงที่หยุดเรียนเพราะโควิดระบาด ฉันได้ดูวิดีโอมากมายและมีโอกาสได้ฟังเพลงของซุซุกิ ไอริซัง อดีต °C-ute เข้า รู้สึกว่ามีเสน่ห์มากๆ เลยน่ะค่ะ ฉันชอบร้องเพลงมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว เลยคิดว่าถ้าได้ทำงานที่เป็นความ “ชอบ” ก็คงจะดีไม่น้อย เลยมาเข้าออดิชั่น Hello! Project ค่ะ!
— วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซิงเกิลใหม่ของ Tsubaki Factory จะวางขายแล้วสินะ
คาไซ : เพลง “Machigai janai Naitari shinai” นั้นเป็นเพลงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ค่ะ ต้องสู้กับเนื้อเพลงภาษาอังกฤษอย่างยากลำบาก แต่พอร้องไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าถ้าสำเนียงดีขึ้นกว่าเดิมก็คงดีค่ะ (หัวเราะ) เพลง “Skip! Skip! Skip!” เป็นเพลงที่คึกคักมาก ฉันรับผิดชอบพาร์ทคำพูดที่พูดว่า “aishiteru yo (รักนะ)” ค่ะ ฉันน่ะพูดตอนเพอร์ฟอร์แมนซ์ได้ก็จริง แต่ตอนพูดคำนี้ในบูธอัดเสียงเนี่ยเขินซะจนประหม่าเลยค่ะ แต่คราวนี้ก็ได้พยายามตรงส่วนนั้นแล้วค่ะ และเพลงที่ 3 “Kimi to Boku no Kizuna feat. KIKI” นั้นเป็นผลงานเด่นที่เตรียมไว้สำหรับการจบการศึกษาของอาซาคุระ คิคิซัง ซึ่งเป็นเพลงที่นาคาจิมะ ทาคุอิซังแต่งให้ใช้ในไลฟ์ฤดูร้อนปีที่แล้วว่า “ให้ร้องในแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นฉากหลังได้” ค่ะ
— จะว่าไป คาไซซังเล่นเกมหรือเปล่า?
คาไซ : ช่วงนี้ฉันเล่น “Human Fall Flat” ใน Nintendo Switch กับพี่สาวค่ะ ส่วน Tsubaki Factory ตอนนี้กำลังฮิต “LINE Disney TsumTsum” กันค่ะ โอโนดะ ซาโอริ หนึ่งในสมาชิกติด “TsumTsum” มาก ชอบส่งแจ้งเตือนขอหัวใจมาตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ)
0 Comments