[TRANS] Kasai Yumi Interview in Weekly Famitsu 16 February 2023 issue

 

     สวัสดีค่า กลับมาพบกับแปลบทสัมภาษณ์สั้นๆ ของสมาชิก Hello! Project กันอีกเช่นเคยนะคะ ช่วงนี้งานแปลอาจจะมาถี่กว่ารีวิวหนังสือสักหน่อย เพราะค่อนข้างยุ่งหลายอย่างจนแทบไม่มีเวลาได้จับหนังสืออ่านเลยค่ะ 😓 ส่วนแปลนี่คือตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำ ก็ไม่อยากให้ขาดความต่อเนื่องไป


     ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นคิวของคาไซ ยูมิ สมาชิกใหม่วง Tsubaki Factory ในคอลัมน์ Monthly Hellotsu ในนิตยสารฟามิซืออีกเช่นเคยค่ะ เหตุผลที่แปลเจ้านี้สม่ำเสมอเพราะเป็นสัมภาษณ์สั้นๆ ใช้เวลาไม่นานมากและภาพสวย ซึ่งภาพที่ลงประกอบในบล็อกจะเป็นภาพที่เรานำมาจากทวิตเตอร์ของทางฟามิซือเอง (ที่นี่) ในส่วนของบทแปล เราแปลแบบไม่ได้เป๊ะมาก แปลเพื่อฝึกด้วยแพชชั่นส่วนตัว เอาตามความเข้าใจและพยายามเรียบเรียงให้อ่านง่ายเท่าที่จะทำได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ


*ห้ามนำบทแปลในบล็อกนี้ไปโพสต์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต*



— คราวนี้เราลองมาถ่ายกันที่สตูดิโอแนวคลาสสิกที่ห้อมล้อมไปด้วยของแอนทีคแบบยุโรป และแต่งหน้าแบบที่คาไซซังกำลังชอบในช่วงนี้ด้วย

คาไซ : ฉันชอบประวัติศาสตร์ค่ะ ตอนสมัยม.ปลายเคยเรียนประวัติศาสตร์โลกด้วย ก็เลยสนุกมากๆ ค่ะ! ฉันกำลังเรียนรู้หลายๆ เรื่องทั้งการแต่งหน้าและเครื่องสำอางอยู่ และตั้งเป้าว่าจะพยายามเอาคุณวุฒิในด้านเครื่องสำอางและความงามอยู่ค่ะ


— คาไซซังที่บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ เคยพูดถึงความรักที่มีต่อลูกพีชในสถานที่ดังๆ นี่นะ รู้สึกว่าในนั้นจะบอกว่าชอบลูกพีชแบบแข็งๆ ด้วย

คาไซ : ฉันชอบลูกพีชแข็งๆ มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ! แค่ล้างเอาขนอ่อนออกแล้วกินทั้งเปลือกแบบนั้นเลยค่ะ~


— เอ๋! ทั้งเปลือกงั้นหรือ!? การกินทั้งเปลือกมีข้อดีอะไรหรือเปล่า…

คาไซ : ธรรมชาติ รู้สึกได้ถึงธรรมชาติค่ะ (หัวเราะ) แน่นอนว่าฉันชอบพีชแบบนิ่มๆ ด้วยเหมือนกัน แต่ก็อยากนำเสนอลูกพีชแข็งๆ ในฐานะที่บ้านเกิดอยู่ในจังหวัดยามานาชิด้วยค่ะ บ๊วยดองเองยังมีทั้งแบบนิ่มๆ แล้วก็แบบกรอบๆ สองชนิดเลยนี่คะ


— จริงด้วย…! คาไซซังเคยบอกว่าเวลากลับบ้านเกิดจะไปช่วยเกี่ยวข้าวด้วย แต่เดิมแล้วเป็นสายรักธรรมชาติสินะ

คาไซ : ที่ที่ฉันเกิดและเติบโตมาล้อมรอบไปด้วยภูเขาและทุ่งนา เลยรู้สึกว่าธรรมชาติอยู่ใกล้ตัวเสมอค่ะ วิถีชีวิตประมาณว่าผักก็ได้คนแถวบ้านแบ่งเอามาให้ นอกจากเนื้อแล้วก็ดำเนินชีวิตด้วยการหาเลี้ยงตัวเองกันได้ค่ะ (หัวเราะ)


— จากวิถีชีวิตแบบนั้น อะไรคือสาเหตุให้ตั้งเป้าหมายที่จะเข้า Hello! Project ล่ะ?

คาไซ : ช่วงที่หยุดเรียนเพราะโควิดระบาด ฉันได้ดูวิดีโอมากมายและมีโอกาสได้ฟังเพลงของซุซุกิ ไอริซัง อดีต °C-ute เข้า รู้สึกว่ามีเสน่ห์มากๆ เลยน่ะค่ะ ฉันชอบร้องเพลงมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว เลยคิดว่าถ้าได้ทำงานที่เป็นความ “ชอบ” ก็คงจะดีไม่น้อย เลยมาเข้าออดิชั่น Hello! Project ค่ะ!


— วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซิงเกิลใหม่ของ Tsubaki Factory จะวางขายแล้วสินะ

คาไซ : เพลง “Machigai janai Naitari shinai” นั้นเป็นเพลงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ค่ะ ต้องสู้กับเนื้อเพลงภาษาอังกฤษอย่างยากลำบาก แต่พอร้องไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าถ้าสำเนียงดีขึ้นกว่าเดิมก็คงดีค่ะ (หัวเราะ) เพลง “Skip! Skip! Skip!” เป็นเพลงที่คึกคักมาก ฉันรับผิดชอบพาร์ทคำพูดที่พูดว่า “aishiteru yo (รักนะ)” ค่ะ ฉันน่ะพูดตอนเพอร์ฟอร์แมนซ์ได้ก็จริง แต่ตอนพูดคำนี้ในบูธอัดเสียงเนี่ยเขินซะจนประหม่าเลยค่ะ แต่คราวนี้ก็ได้พยายามตรงส่วนนั้นแล้วค่ะ และเพลงที่ 3 “Kimi to Boku no Kizuna feat. KIKI” นั้นเป็นผลงานเด่นที่เตรียมไว้สำหรับการจบการศึกษาของอาซาคุระ คิคิซัง ซึ่งเป็นเพลงที่นาคาจิมะ ทาคุอิซังแต่งให้ใช้ในไลฟ์ฤดูร้อนปีที่แล้วว่า “ให้ร้องในแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นฉากหลังได้” ค่ะ


— จะว่าไป คาไซซังเล่นเกมหรือเปล่า?

คาไซ : ช่วงนี้ฉันเล่น “Human Fall Flat” ใน Nintendo Switch กับพี่สาวค่ะ ส่วน Tsubaki Factory ตอนนี้กำลังฮิต “LINE Disney TsumTsum” กันค่ะ โอโนดะ ซาโอริ หนึ่งในสมาชิกติด “TsumTsum” มาก ชอบส่งแจ้งเตือนขอหัวใจมาตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ)




Machigai janai Naitari shinai MV

Skip! Skip! Skip! MV

Kimi to Boku no Kizuna feat. KIKI MV



Post a Comment

0 Comments