สวัสดีค่า กลับมาพบกันกับการรีวิวหนังสือเช่นเคยค่ะ สำหรับคราวนี้ก็ยังคงอยู่กับหนังสือที่ยืมอ่านจาก Kindle Unlimited Japan ที่มีหนังสือให้เลือกอ่านเยอะมากจนบางทีก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนดีและโหลดมาดองทิ้งไว้เต็มไปหมด (ดองทั้งแบบเล่มและแบบ e-book แล้วค่ะ) จนในที่สุดก็เลือกเรื่องนี้มาเพราะดูปกแล้วน่าสนใจดีค่ะ
คางาวะ อิจิกะ (賀川一香) หลานสาวร้าน "เรสึคิกะ (令月香)" ร้านขายเครื่องหอมเก่าแก่ในย่านการค้าเทรามาจิเคียวโกคุ (寺町京極商店街) ในเกียวโต เธอย้ายจากโตเกียวมาเข้าเรียนมัธยมปลายในเกียวโตและอาศัยอยู่กับคุณตาคุณยายและช่วยงานที่ร้านไปด้วย โดยมีเคียวทาโร่ (恭太郎) ลูกชายร้านขนมญี่ปุ่นชิซุคุยะ (雫屋) ที่อยู่ในย่านเดียวกันเป็นเพื่อนที่คอยแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเกียวโตตั้งแต่ตอนย้ายมาใหม่ๆ
ที่จริงแล้ว อิจิกะนั้นมีพลังพิเศษที่บอกใครไม่ได้ นั่นคือเธอสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของคนอื่นได้จากการมองเห็นออร่าสีๆ รอบตัวของคนอื่นที่จะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของคนผู้นั้น ทำให้เธอทุกข์ทรมานเพราะความสามารถนี้ที่ไม่มีใครยอมรับว่าเธอมองเห็นแม้แต่แม่ของตัวเอง และตัวอิจิกะเองก็ทำอะไรกับมันไม่ได้และได้แค่เก็บไว้กับตัวจนทนไม่ไหว ต้องย้ายออกจากบ้านที่โตเกียวมาอยู่ที่เกียวโต แต่มีเพียงมิตสึอิ โซยะ (三ツ井颯也) หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เคยทำงานพิเศษที่ร้านเรสึคิกะตอนอิจิกะตอนอายุ 10 ขวบเท่านั้นที่เธอไม่เคยเห็นออร่าออกมาจากตัวเขาเลย และตัวโซยะหรือโซจังก็ใจดีกับเธอมาก ทั้งยังเชื่อและคอยให้กำลังใจอิจิกะจนเกิดเป็นรักแรกขึ้น โดยก่อนจากกันในตอนนั้น โซยะได้ให้ถุงหอมกับอิจิกะไว้ และอิจิกะเองก็เก็บเอาไว้เป็นเสมือนเครื่องรางมาตลอด แต่น่าเสียดายที่พออิจิกะกลับมาที่เกียวโตอีกครั้ง โซยะที่เรียนจบก็ไม่อยู่ที่เกียวโตแล้ว แต่อิจิกะเองก็หวังว่าจะได้พบกับโซยะอีกครั้งหนึ่ง
อิจิกะคอยช่วยงานในร้านเรสึคิกะ และเคียวทาโร่เองก็ช่วยงานที่ร้านและไปมาหาสู่เป็นประจำเนื่องด้วยสัญญาระหว่างร้าน เนื่องจากทางร้านเรสึคิกะกำลังจะเปิดคาเฟ่เพิ่มเติมในชื่อยาวารางิมงโคโดโคโระ (やわらぎ聞香処) ซึ่งโคชิ (香司) หรือสุคนธกรที่เชี่ยวชาญในด้านกลิ่นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมให้บริการดมกลิ่นหอมๆ ของไม้หอมเผาไฟไปพร้อมกับเพลิดเพลินกับชาและขนมญี่ปุ่นสั่งทำพิเศษจากร้านชิซุคุยะด้วย
วันหนึ่ง มีลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาตามหาถุงหอมกลิ่นเดียวกับที่คุณยายเคยให้สมัยเด็ก แต่เจ้าตัวจำกลิ่นไม่ได้ พอดมกลิ่นในร้านก็ไม่ใช่อีก อิจิกะจึงโยงเรื่องของลูกค้าเข้ากับเรื่องของตัวเอง เมื่อเคียวทาโร่ได้ฟังเรื่องจึงพาตัวอิจิกะไปยังศาลเจ้าอิจิอิดานินานะโนะ (櫟谷七野神社) ซึ่งให้ผลเกี่ยวกับการคืนสัมพันธ์ (縁戻し) และตัดสัมพันธ์ (縁切り) ได้ อิจิกะจึงขอพรให้ลูกค้าคนนั้นได้เจอกับถุงหอมที่กำลังตามหา และขอให้ตัวเองได้เจอกับโซยะอีกครั้ง
ตอนแรกแอบคิดว่าจะเป็นเรื่องรักจ๋าๆ หน่อย แต่พออ่านไปจริงๆ แล้วออกแนว cozy mystery นิดๆ มากกว่า คือตัวอิจิกะเองจะโซจังอย่างโน้น โซจังอย่างนี้ และคิดถึงเรื่องโซยะตลอดเวลาจริงๆ แต่ก็จะมีการไขปริศนาเล็กๆ อย่างเรื่องการตามหาถุงหอมในความทรงจำของลูกค้า โซยะไปเดทเพื่อถ่ายรูปที่เป็นความทรงจำเอาไปมอบให้น้องสาวที่มีโซยะเป็นรักแรกซึ่งป่วยและกำลังจะเข้ารับการผ่าตัด หรือธูปหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ขายหมดเกลี้ยงจนไม่มีให้กับลูกค้าคนหนึ่งที่มาซื้อ ซึ่งทุกเรื่องเกี่ยวพันกับร้านยาวารางิมงโคโดโคโระ ซึ่งในระหว่างนี้ตัวอิจิกะเองก็ได้เรียนรู้ทั้งในเรื่องกลิ่น ไม้หอม รวมถึงความเติบโตทางด้านจิตใจและความสัมพันธ์กับโซยะอีกด้วย ซึ่งก็จะมีศัพท์เกี่ยวกับวงการกลิ่นหอมในแบบญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสามศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็มีเรื่องสถานที่ในเกียวโต เทศกาล และยังมีวะกะโผล่ออกมานิดๆ อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คนเขียนไม่ได้ลงลึกมากจนอ่านไม่เข้าใจหรือเป็นสารคดีจ๋า เรียกว่าแตะแบบผิวๆ ให้เข้าธีมบรรยากาศเรื่องมากกว่า ทำให้เนื้อหาเข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อน
ด้วยความที่เรื่องมีบรรยากาศของเกียวโตในลักษณะของย่านการค้าเก่าที่คงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเอาไว้ ระหว่างอ่านเลยให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเรื่องขนมญี่ปุ่นหรือวัฒนธรรมอย่างอื่น แต่อาจเป็นเพราะตัวเราเองอาจจะยังไม่เคยเจอกับเรื่องศิลปะด้านกลิ่นในลักษณะดั้งเดิมด้วยก็ได้เลยรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะลึกซึ้งและควรได้สัมผัสด้วยตัวเองด้วย พอไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ หลายอย่างเคยจินตนาการภาพไม่ออกเท่าไหร่นัก
ในด้านภาษาเรียกได้ว่าอ่านไม่ยาก อ่านเพลินๆ แนวการ์ตูนผู้หญิงได้อยู่ อาจมีช่วงยากบ้างเพราะศัพท์เกี่ยวกับกลิ่นหอมทั้งหลายแต่ก็ไม่ได้ยากเกินความเข้าใจ คนเขียนอธิบายความหมายให้เราได้รู้ไปพร้อมกับตัวละครในเรื่องเลย ซึ่งตรงนี้เราถือเป็นข้อดีค่ะ
โดยรวมแล้วเล่มนี้เราค่อนข้างเฉยๆ คืออ่านแล้วก็สนุกแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรที่น่าจดจำเป็นพิเศษมากนัก อ่านฆ่าเวลาเพลินๆ ได้อยู่ค่เพราะจำนวนหน้าไม่เยอะ ใครที่สนใจก็ลองเข้าไปอ่านได้นะคะ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวเล่มหน้าค่ะ
0 Comments