สำหรับบทสัมภาษณ์ในคราวนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับละคร "Mayonaka ni Hello!" ที่เริ่มฉายเมื่อต้นปีนะคะ ด้วยความที่เราชอบคอนเซปต์ของละครชุดนี้เอามากๆ เลยตั้งใจว่าจะรวมรวมบทความที่สัมภาษณ์เด็กๆและผู้เกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้ที่เราว่าน่าสนใจมาแปลกันค่ะ เริ่มที่บทสัมภาษณ์แรกซึ่งสัมภาษณ์ซึงคุซังและคิตาโนะซัง ที่เรารู้สึกว่าเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังของละครชุดนี้นั่นเอง แน่นอนว่าบทสัมภาษณ์นี้ก็มีลงในเพจ Hello Pro Moments เช่นเคยค่ะ แต่เราเลือกที่จะลงในบล็อกส่วนตัวด้วยเพราะอยากเก็บเอาไว้ให้เป็นระเบียบและหาง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนพิม้าคเค้าตัดฟีเจอร์โน่นนี่ออกด้วย
ในส่วนของภาพประกอบ เราหยิบจากทวิตเตอร์ออฟฟิศเชียลของละครเรื่องนี้และจากเว็บ cinema.ne.jp มาประกอบในนี้นะคะ ส่วนตัวบทความเราแปลตามต้นฉบับที่ลงในเว็บ news.dwango.jp ค่ะ และเช่นเคยเหมือนทุกครั้ง ขออนุญาต disclaimer ไว้ล่วงหน้าว่าในส่วนของบทแปล เราแปลแบบไม่ได้เป๊ะมาก แปลเพื่อฝึกด้วยแพชชั่นส่วนตัว เอาตามความเข้าใจและพยายามเรียบเรียงให้อ่านง่ายเท่าที่จะทำได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ
*ห้ามนำบทแปลทั้งจากในนี้และ Hello Pro Moments ไปโพสต์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต*
"Mayonaka ni Hello!" ละครชุดที่กำลังเป็นกระแสซึ่งออกอากาศมาตั้งแต่มกราคม 2022 นั้น ได้คิคุจิ โมโมโกะซึ่งเป็นตัวเอกมารับบทเป็นเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ซึ่งเป็นแฟนผู้คลั่งไคล้ใน "Hello! Project" และมีสมาชิกของ Hello! Project ทั้ง Morning Musume'22, ANGERME, Juice=Juice, BEYOOOOONDS และ Tsubaki Factory มาเปิดการแสดงอันเร่าร้อนเรียกเสียงตอบรับได้ทุกสัปดาห์
และตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป "Mayonaka ni Hello!" ออริจินอล dTV ที่มีคาวามุระ อายาโนะ, ฮาชิซาโกะ ริน, นิชิดะ ชิโอริ, ยามาซากิ ยูฮาเนะ ซึ่งเป็น Hello Pro Kenshuusei รุ่นเดียวกันเป็นผู้แสดงและมีคาชิวากิ ยูกิ วง AKB48 มาเป็นดารารับเชิญจะเริ่มออกอากาศ เพื่อเป็นที่ระลึก ในครั้งนี้ทางเราจึงได้สัมภาษณ์คุณซึงคุ♂ ซึ่งเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดฮาโหลโปร และคุณคิตาโนะ อัตสึชิ (Hakuhodo Kettle) ผู้รับหน้าที่วางแผนและโปรดิวซ์ละคร โดยจะมาบอกเล่ากันอย่างหมดเปลือกตั้งแต่การวางแผนงาน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในสถานที่ถ่ายทำ รวมถึงสเน่ห์ของฮาโหลโปรที่กำลังจะครบรอบ 25 ปีด้วย
■ เรื่องลับในการถือกำเนิดของ "Mayonaka ni Hello!" และคอนเซปต์ของงาน
——ช่วยเล่าถึงการวางแผนสร้าง "Mayonaka ni Hello!" หน่อย
คิตาโนะ : ตั้งแต่ประมาณ 5 ปีก่อน ผมมีโอกาสได้ช่วยทำ Music Video (MV) ของฮาโหลโปร แล้วผมก็ได้รับการติดต่อจากคุณเทราบารุ โยเฮ โปรดิวเซอร์ของ TV Tokyo ที่ได้ดู MV นั้นมาว่า "มาทำละครด้วยกันไหมครับ" น่ะครับ คุณเทราบารุอุตส่าห์ดู MV แล้วมาชวนผม และตัวคุณเทราบารุเองก็บอกว่าชอบฮาโหลโปรเช่นกัน ผมจึงลองวางและเสนอแผนงานที่เกี่ยวข้องกับฮาโหลโปรไปและได้ทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาครับ
——หลังจากนั้นคุณซึงคุ♂ กับคุณคิตาโนะได้พูดคุยอะไรกันไหม
คิตาโนะ : ไม่ครับ ตอนนี้ได้เจอหน้ากันครั้งแรกเลย (หัวเราะ)
ซึงคุ♂ : (หัวเราะ)
■ ฮาโหลโปรคือ "ซึงคุอีกคนหนึ่ง" เพลงที่อยากทำเป็นละครคือเพลงใด
——ตั้งแต่ก่อตั้ง Morning Musume ขึ้นมาในปี 1997 ก็ 25 ปีแล้ว คิดว่าจุดไหนคือเหตุผลที่ทำให้ฮาโหลโปรเป็นที่รักมาอย่างยาวนาน
ซึงคุ♂ : น่าจะเป็นเพราะการที่ Morning Musume, Berryz Koubou, ℃-ute และพวกเด็กๆในฮาโหลโปรตอนนี้ด้วยไม่ได้ถูกขัดเกลามาอย่างดีหรือดูสูงส่งนั้นเป็นเรื่องที่ดีล่ะมั้งครับ ที่จริงแล้ววงการบันเทิงเป็นที่ที่ต้องออกแสดงในสภาพสมบูรณ์แบบ แต่กลับกลายมาเป็นธุรกิจในลักษณะที่ให้ออกมาแสดงทั้งที่ยังไม่สมบูรณ์และยังมีความผิดพลาดด้วย ซึ่งผมว่าน่าชื่นชมที่ยังคงทำได้เรื่อยมาทั้งที่ยังไม่สมบูรณ์แบบและดีแล้วที่ยังอ่อนหัดอยู่ครับ
—— สำหรับคุณซึงคุ♂ แล้ว ฮาโหลโปรดำรงอยู่ในลักษณะไหน
ซึงคุ♂ : ตอนนี้ผมไม่ได้แบกทุกอย่างเอาไว้แล้วก็เลยไม่ได้(รู้สึก)เท่าเดิม แรกเริ่มเดิมทีนั้นผมทำขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่าเป็น "ซึงคุ♂ อีกคนหนึ่ง" น่ะครับ ดังนั้นจึงเป็นโฆษกที่ช่วยถ่ายทอดข้อความของตัวเองออกไป อย่างข้อความที่ถ้าให้ลุงพูดแล้วจะดูไม่เข้ากัน แต่ถ้าผ่านฟิลเตอร์ของพวกเธอแล้วก็จะดูไม่ขัด และช่วยเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับได้ขึ้นมาด้วยครับ
——เพลงของคุณซึงคุ♂ นั้น ไม่ใช่แค่ตอนที่ปล่อยออกมาเท่านั้น ผ่านไป 5 ปี 10 ปีแล้วก็ยังคงมีสเน่ห์ที่ยังคงแทงเข้าไปในหัวใจเมื่อได้ฟังเสมอ ตอนที่ทำเพลงได้คำนึงถึงว่าจะให้เป็นเพลงที่ฟังได้อย่างยาวนานหรือเปล่า
ซึงคุ♂ : ยังไงดีล่ะ... Morning Musume เนี่ยผมเริ่มทำมาตั้งแต่ตอนยังอายุไม่ถึง 30 ปี ผมว่าเพลงตอนหนุ่มๆอัดแน่นไปด้วยด้านที่ไม่พอใจหรือขัดแย้งที่มีต่อโลกในแบบของวัยหนุ่ม แต่พออายุเลย 50 ปีแล้วย้อนกลับไปอ่านเนื้อเพลงในตอนนั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้คิดว่า "ต่างออกไปสุดๆ"...และตัวผมเองก็รู้สึกว่า นั่นไง ทำได้ดีมาก ด้วยครับ
——มีเพลงที่คิดว่าถ้าได้ทำออกมาเป็นละครหลังจากนี้แล้วน่าจะสนุกบ้างไหม
ซึงคุ♂ : ผมแต่งเพลงมาประมาณ 2000 เพลง ไม่ว่าเพลงไหนก็มีความรู้สึกที่แฝงอยู่ในนั้น ถ้าจะระบุว่าเพลงเพลงนี้เท่านั้นมันยากมาก เพลง Million Seller อย่าง "Love Machine" (Morning Musume ปี 1999), Pucchi Moni, Mini Moni ได้ผลตอบรับที่ดีก็จริง แต่ก็มีเพลงอีกเยอะที่รู้สึกว่า "ทั้งที่เพลงนี้ดีออกแท้ๆ..." แต่กลับขายไม่ออกอยู่เหมือนกัน แล้วผมก็ชอบเพลงของ Morning Musume ช่วงหลังๆด้วย... มีเยอะเกินจนลำบากใจเลยล่ะ (หัวเราะ) แต่ผมว่าถ้าเอา "Yoshi Yoshi shite hoshii no" (ปี 2021) ไปทำเป็นละครก็น่าจะสนุกนะ
คิตาโนะ : ส่วนผมคือ "Kimi no Kawari wa Iyashinai" (Morning Musume'14 / ปี 2014) ถ้ามีใครสักคนพูดว่า "ไม่มีใครมาแทนที่เธอได้ (คำแปลชื่อเพลง Kimi no Kawari wa Iyashinai)" กับคนที่มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเองก็น่าจะให้กำลังใจได้มากเลยล่ะครับ ที่จริงแล้วเพลงที่เข้ามาอยู่ในตัวเลือกของละครครั้งนี้แบบเฉียดฉิวเลยก็คือเพลง "Kimi no Kawari wa Iyashinai" ครับ เพลงที่มีความรู้สึกของพวกตัวเองแฝงอยู่ เพลงที่เป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ เพลงที่อยากให้ทุกคนได้รู้จัก... ผมรู้สึกว่าการรักษาสมดุลย์ของสิ่งเหล่านั้นไว้เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงลำบากในการตีกรอบเพลงครับ แต่ท้ายสุดแล้วก็เลือกเพลงที่พวกเราชอบครับ
——ในทางกลับกัน จุดที่สนุกของงานในครั้งนี้คืออะไร
คิตาโนะ : การที่สมาชิกฮาโหลโปรทุกคนดูสนุกสนานกับการถ่ายทำครับ ได้เชื่อมสัมพันธ์กับพวกนักแสดง อย่างคุณทานากะ มาโกโตะ ที่ออกมาเป็นแขกรับเชิญในตอนที่ 4 ก็กลายมาเป็นแฟนฮาโหลโปรในระดับที่ไปคอนเสิร์ตจากงานชิ้นนี้เลยล่ะครับ ผมว่าการได้ติดต่อกันในวงการทำให้แวดวงเพื่อนกว้างขวางขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่ดีครับ
——ตัวคุณคิตาโนะเองก็มีส่วนที่ทำให้ชอบฮาโหลโปรมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมบ้างไหม
คิตาโนะ : มีครับ (หัวเราะ) ผมเป็นพวกชอบเพลงจากเมโลดี้ก่อน แต่ในคราวนี้พอได้ลองเผชิญหน้ากับเนื้อเพลงอีกครั้งก็ได้ค้นพบสิ่งใหม่เยอะแยะเลยครับ การได้ค้นพบสเน่ห์ของเพลงฮาโหลโปรจากมุมที่แตกต่างไปมันสนุกมากครับ
■ ความคาดหวังที่มีต่อฮาโหลโปรต่อจากนี้ไป และวิธีเพลิดเพลินที่ทำได้เฉพาะทาง dTV
——สิ่งที่คาดหวังจากฮาโหลโปรต่อจากนี้ไปคืออะไร
คิตาโนะ : หากเทียบตอนที่ก่อตั้งฮาโหลโปรกับปัจจุบันแล้ววงการบันเทิงเปลี่ยนแปลงไปมากครับ มี K-POP ปรากฏตัวขึ้นมาและไอดอลเองก็มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในจำนวนนั้นผมคิดว่าที่ที่ผลิตคนเก่งที่มีลักษณะ "เฉพาะตัว" สูง สามารถแข่งขันได้ด้วยสเน่ห์ของความเป็นมนุษย์และความเรียบง่ายได้นั้นคือฮาโหลโปร ดังนั้นผมจึงรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้เห็นเด็กในลักษณะนั้นออกมาอีกเยอะๆครับ และถ้าตัวผมเองจะช่วยสื่อถึงสเน่ห์ที่ว่านั่นออกมาได้ก็คงจะดีไม่น้อย
ซึงคุ♂ : แตกต่างกับเมื่อ 25 ปีก่อนจริงๆละนะ ตอนนี้ สิ่งสำคัญสำหรับยุคเรวะคือความสามารถในการรักษาสมดุลย์ เมื่อ 25 ปีก่อนเป็นยุคที่ไม่ว่าจะนิสัยแย่แค่ไหน แต่ถ้าเป็นนักดนตรี แค่เล่นเครื่องดนตรีเก่งก็พอแล้ว หรือถ้าเป็นนักกีฬาเหรียญทอง ถึงนิสัยปกติจะแย่แค่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ถึงจะร้องเพลงเก่งแต่ถ้านิสัยแย่ก็ไม่เอา ถึงจะเป็นแชมป์โลกแต่ถ้าพูดอะไรไม่เหมาะสมคำเดียวก็จะไม่ได้ออกสื่อ จึงอยากให้ตั้งใจเรียนรู้ในระหว่างที่เป็นคนในวงการบันเทิงว่าจะรักษาสมดุลย์และใช้ชีวิตต่อไปในสังคมได้อย่างไรครับ อยากให้ใช้ชีวิตกันโดยไม่โดนคนอื่นมาพูดใส่ในอีก 20 ปี 30 ปีให้หลังว่า "ยัยนั่นน่ะ ตอนอยู่ในห้องแต่งตัวแย่สุดๆไปเลย!" (หัวเราะ)
——สุดท้ายนี้ คุณคิตาโนะช่วยบอกถึงวิธีเพลิดเพลินกับ "Mayonaka ni Hello!" ออริจินัลทาง dTV หน่อยได้ไหม
คิตาโนะ : บริการ Video Streaming มีข้อดีที่ทำให้เราสามารถดูได้อย่างละเอียดและดูซ้ำได้ครับ ดังนั้น หลังจากเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวคร่าวๆแล้วรอบนึง ก็น่าจะยิ่งสนุกขึ้นถ้าได้ย้อนกลับไปดูฉากที่ชอบหรือย้อนดูการแสดงซ้ำได้ แล้วก็ในเรื่องของสีหน้าครับ สมาชิกฮาโหลโปรปกติแล้วจะแสดงต่อหน้าผู้ชมมากมายที่มาในสถานที่จัดคอนเสิร์ตหรือแสดงต่อหน้าผู้ชมที่อยู่อีกฟากของโทรทัศน์ แต่ในครั้งนี้จะได้แสดงต่อหน้าแขกรับเชิญในสถานที่จริงหรือต่อหน้าคุณคิคุจิ จึงมีสีหน้าที่แตกต่างออกไปจากปกติ ดังนั้นผมจึงอยากให้ย้อนดูสีหน้าเล็กๆน้อยๆของสมาชิกด้วยครับ ซึ่งผมว่านั่นคือวิธีเพลิดเพลินในแบบที่ทำได้เฉพาะทาง dTV ครับ
ดังนั้นผมขอยืมพื้นที่ตรงนี้สอบถามสักนิด ตอนที่ได้เห็นแผนงานของ "Mayonaka ni Hello!" ที่จริงแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
ซึงคุ♂ : ดีใจมากที่ได้รู้ว่าจะเอาดนตรีของผม ข้อความ(เนื้อเพลง)ของผมไปทำเป็นเรื่องราว และรู้สึกว่าเป็นแผนงานที่น่าสนุก อย่างเพลง I WISH (Morning Musume / ปี 2000) ที่เป็น Ending ก็เป็นเพลงที่แต่งเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว การที่เอาเพลงนั้นมาปรับปรุงใหม่และสื่อออกไปให้โลกรับรู้นั้นผมรู้สึกขอบคุณอย่างมากเลยครับ ...งานที่คุณคิตาโนะได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยคือตั้งแต่เพลง "Morning Misoshiru" (Morning Musume'17) สินะครับ
คิตาโนะ : งานที่ได้รับมาเป็นงานแรกคือการเตรียมการสำหรับเพลงนั้นในปี 2016 ครับ
ซึงคุ♂ : ก่อนหน้านั้นหรือเนี่ย เพราะงั้นวันนี้ก็น่าจะไม่ใช่การพบกันครั้งแรก แล้วละครในครั้งนี้ด้วย เอาเถอะ คงไม่ทำให้ออกมาแย่หรอก (หัวเราะ) ในความไว้วางใจก็มีความรู้สึกว่า "ได้ฝากฝังต่อจากนี้ไว้แล้ว" ด้วยครับ
■ ฮาโหลโปรที่ออกมาในละครคือจังหวะที่ดีที่สุด
——ประตูจะปรากฏขึ้นต่อหน้าคนที่มาเยี่ยมเยือนเกสต์เฮ้าส์โดยโอบกอดเอาปัญหาหลากหลายเอาไว้ เมื่อเปิดประตูก็พบว่ามันได้เชื่อมไปยังห้องแต่งตัวของฮาโหลโปรถือเป็นเซ็ตติ้งที่แปลกใหม่ ได้ไอเดียนี้มาได้อย่างไร
คิตาโนะ : คราวนี้เป็นละครโทรทัศน์ที่จะผ่านตาผู้ชมจำนวนมากแบบไม่เฉพาะเจาะจง ผมจึงอยากแสดงการร้องและการเต้นให้เห็นเพื่อบอกเล่าถึงสเน่ห์ให้คนที่ไม่รู้จักฮาโหลโปรได้รับรู้ แต่ถ้าจู่ๆก็เริ่มแสดงขึ้นมาเสียเฉยๆคงทำให้ผู้ชมตกใจได้ ก่อนอื่นผมจึงอยากให้ดารารับเชิญในละครและสมาชิกฮาโหลโปรร่วมกันสร้างความรู้สึกและปูทางไปสู่การแสดงน่ะครับ ซึ่งประตูกับห้องแต่งตัวคืออุปกรณ์ที่คิดมาเพื่อการนั้น ประตูคือสิ่งที่ทำให้บรรดาดารารับเชิญได้เผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเอง ส่วนห้องแต่งตัวคืออะไรบางอย่างที่พวกเธอได้ข้ามผ่านเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ต่อไปครับ แล้วก็ในประตูนั่นยังมีนัยยะที่ว่าเป็นประตูนำไปสู่ "หลุม" ของฮาโหลโปรด้วยครับ
—— คุณซึงคุ♂ คิดอย่างไรเกี่ยวกับการสร้างเนื้อหาในลักษณะนี้ขึ้นมา
ซึงคุ♂ : ตอนที่ 1 เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่ต้องอธิบายถึงเซ็ตติ้ง แต่ตั้งแต่ตอนที่ 2 เป็นต้นไปเรื่องราวก็เข้ามาเติมเต็ม เขียนถึงเหตุผลที่ตัวเอกมารวมกันที่เกสต์เฮ้าส์ได้อย่างหนักแน่นด้วย ในส่วนของละครหรือความเป็นมาก่อนจะเข้าสู่เพลงก็น่าสนใจ แล้วก็ผมคิดว่าการจะให้พวกเด็กฮาโหลโปรเข้ามาในละครได้ยังไงนั้นก็น่าจะยาก แต่สุดท้ายพอได้ดูที่ฉายก็คิดว่า "ตอบถูกเผง!" ครับ
คิตาโนะ : ดีใจเลยครับ (หัวเราะ)
ซึงคุ♂ : ที่จริง พอการแสดงของพวกเด็กฮาโหลโปรเริ่มขึ้น น่าจะพลาดกันเยอะสุดๆในฐานะนักแสดงเพราะไม่ใช่มืออาชีพกันใช่ไหม (หัวเราะ) คงพยายามท่องจำบทพูดมาแน่ล่ะ แต่ก็ยังห่างชั้นกับพวกนักแสดงหญิง และในทางกลับกันก็คิดว่า "อา เด็กพวกนี้เป็นนักร้องแหละดีแล้ว" (หัวเราะ) แต่ในความขัดกันเหล่านั้นก็มีส่วนที่รู้สึกดีเล็กน้อยเหมือนกัน... เพราะตอนที่ฮาโหลโปรได้ออกในละครนั้นออกมาในลักษณะที่ดีที่สุดแล้ว ในฐานะโปรดิวเซอร์ก็รู้สึกว่าได้แสดงฝีมือในทางที่เชี่ยวชาญกันแล้วนะ
คิตาโนะ : อา ใจดีจัง (หัวเราะ) แล้วคิดยังไงกับคุณคิคุจิ โมโมโกะที่เป็นตัวเอกครับ
ซึงคุ♂ : คิดว่าการที่คุณคิคุจิมาเล่นเพลงฮาโหลโปรเองเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก คุณคิคุจิเขาเป็นคนที่อยู่ชั้นปีเดียวกันและเข้ามาในวงการบันเทิงก่อนผม ฝ่าฟันมาตั้งแต่ช่วงอายุ 10 ปี ถ้ามองจากมุมของพวกเด็กฮาโหลโปรแล้วอาจเป็นดารารุ่นพี่คนหนึ่ง แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย ในความคิดผม เรื่องราวที่มาเป็นอันดับหนึ่งในละครครั้งนี้คือวิถีการใช้ชีวิตของเธอ เธอจะปฏิเสธไปก็ได้ว่า "ละครที่ต้องเล่นกับไอดอลยุคปัจจุบันงั้นเหรอ ฉันไม่เล่นหรอก" แต่กลับตั้งใจเผชิญหน้ากับพวกเด็กสาวและร้องเต้นด้วย ซึ่งตรงนั้นคือข้อความที่สุดยอด และผมก็รู้สึกขอบคุณด้วย ดีใจด้วยจนร้องไห้ออกมาตอนดูเลย
คิตาโนะ : ตอนสุดท้ายของการถ่ายทำในครั้งนี้ คุณโอดะ ซากุระ (Morning Musume'22) วิ่งเข้าไปหาคุณคิคุจิแล้วจับมือด้วยละครับ คุณคิคุจิก็บอกว่า "จะคอยเชียร์นะ พยายามเข้า" เลยกลับบ้านไปด้วยท่าทางดีใจสุดๆเลยครับ (หัวเราะ) ตอนนั้นผมคิดว่าได้เห็นจังหวะที่ไอดอลที่คุณซึงคุ♂เคยชอบในตอนแรกเชื่อมต่อเข้ากับสมาชิกฮาโหลโปรที่เป็นไอดอลในตอนนี้ซึ่งคุณซึงคุ♂ เคยเป็นคนดูแล ทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นมา เป็นจังหวะที่ทำให้คิดว่า "ดีจังที่ทำละครเรื่องนี้ขึ้นมา!" ครับ
—— รู้สึกอย่างไรกับเสียงตอบรับหลังละครฉาย
คิตาโนะ : รู้สึกเสียงตอบรับเยอะมากจนขึ้นเทรนด์ในทวิตเตอร์บ่อยๆเลยครับ ที่ผมดีใจคือมีคนบอกว่ารู้จักเพลงฮาโหลโปรจากละครเรื่องนี้ และมีคนที่บอกว่า "ถึงไม่รู้จักเพลงแต่ชอบสมาชิก ช่วยให้กำลังใจ" ด้วยครับ แล้วก็โดยส่วนตัวแล้ว จู่แม่ผมก็ไลน์มาหา บอกว่า "เป็นละครที่เซอร์เรียลแต่อ่อนโยน" ทำให้ผมดีใจมากครับ แอบคิดหน่อยๆด้วยว่า "กตัญญูกับแม่ดีนะ" ด้วยครับ (หัวเราะ)
■ "Mayonaka ni Hello!" ออริจินอล dTV ที่เขียนถึง "ห้องแต่งตัว" ด้านหลังประตูคืออะไร
——ตั้งแต่เดือนมีนาคม "Mayonaka ni Hello!" ออริจินอล dTV ตอนแรกและตอนจบจะออกฉาย ในฉบับ dTV นี้จะเขียนถึงสมาชิกฮาโหลโปรที่อยู่ในห้องแต่งตัว และดารารับเชิญคือคุณคาชิวากิ ยูกิ วง AKB48 คุณคิดไว้อย่างไรบ้าง
คิตาโนะ : dTV เป็นบริการแบบเสียเงิน ถ้าเสียเงินแล้วก็ต้องได้ดูในสิ่งที่อยากดู ผมตั้งใจว่าจะลองทำโดยวางโครงไว้ว่าให้คนที่ดูฉบับโทรทัศน์สนุกสนานกับตอนต่อโดยเน้นไปที่แฟนฮาโหลโปรครับ แล้วก็คุยกับทีมโปรดิวซ์จนได้ไอเดียที่จะใช้ห้องแต่งตัวเป็นหลักขึ้นมา สมาชิกฮาโหลโปรที่เตรียมตัวรอประตูที่จะเปิดออกในฉบับโทรทัศน์จะทำอะไรอยู่ในห้องแต่งตัวกัน เลยคุยกันว่าถ้าเขียนถึงอีกฝั่งของประตูน่าจะสนุกดีน่ะครับ
——คุณซึงคุ♂ ได้ฟังแผนงานฉบับ dTV แล้วคิดอย่างไรบ้าง
ซึงคุ♂ : ผมเองก็เป็นสมาชิก dTV อยู่ ฝั่งคนดูจะไม่ได้แยกจากกลุ่มคนดูโทรทัศน์ แน่นอนว่าต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหา ครั้งนี้ผมเลยกังวลถึงการแสดงของพวกเด็กฮาโหลโปรว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่ยังไงก็อยากดูนะ ได้มองเข้าไปในห้องแต่งตัวในฐานะคนแอบดูเนี่ย (หัวเราะ)
—— เหตุผลที่เลือกตัวแสดงหลักเป็นคุณคาวามุระ คุณฮาชิซาโกะ คุณนิชิดะ คุณยามาซากิซึ่งเป็น Hello Pro Kenshuusei รุ่นเดียวกันคืออะไร
คิตาโนะ : ผมว่ารุ่นนี้มีคนที่น่าสนใจเยอะ อย่างคนที่แล่ปลามากุโระโชว์ได้อย่างคุณคาวามุระ อายาโนะ วง ANGERME หรือคนที่สุขุมแต่มีคาแรคเตอร์แปลกๆนิดหน่อยอย่างคุณยามาซากิ ยูฮาเนะ วง BEYOOOOONDS น่ะครับ ถ้าพวกเธออยู่ในห้องแต่งตัวแล้วจะคุยเรื่องแบบไหนกัน ผมคิดไปอ่านบทสัมภาษณ์เก่าๆไปแล้วก็หยิบเอาคำพูดของพวกเธอมาสร้างเป็นบทครับ
—— คุณซึงคุ♂ รู้สึกอย่างไรกับการเลือกใช้สมาชิกกลุ่มนี้
ซึงคุ♂ : ผมเองยังไม่ได้ดูฉบับสมบูรณ์ก็คงพูดอะไรไม่ได้ แต่รู้สึกว่าน่าจะมีความขัดแย้งกับความรู้สึกดีล่ะมั้ง แรกเริ่มเดิมที Morning Musume ก็ให้ความสำคัญกับความขัดแย้งอยู่แล้ว ตอนสมัยเดบิวต์ ถ้านักร้องสายหลักมีความเป็นธรรมชาติเหมือนอย่าง YUKI จังแห่ง JUDY AND MARY ล่ะก็ Morning Musume จะไม่เป็นธรรมชาติ เพราะผมใช้เวทมนตร์บางอย่างที่จะทำให้พวกเด็กที่ร้องเพลงไม่เป็น ไม่รู้จักกระทั่งวิธีใส่เฮดโฟนเป็นสินค้าขึ้นมาได้อย่างไรน่ะครับ ซึ่งในครั้งนี้คือการจะทำแพ็กเกจให้กับนักแสดงมือใหม่ในฉบับละครอย่างไร ซึ่งความสามารถของโปรดิวเซอร์จะถูกตั้งคำถาม แต่ถ้าไปได้ดีก็น่าจะให้ความรู้สึกเพลิดเพลินได้นะครับ
—— การแคสติ้งคุณคาชิวากิ ยูกิมาเป็นดารารับเชิญล่ะ
ซึงคุ♂ : นั่นก็เป็นอีกความขัดแย้ง การซ้อนมันเข้าไปดูจะขี้โกงอยู่ แต่ก็เป็นความขัดแย้งที่น่าสนุกครับ เพราะงั้นผมเลยสนใจนี่แหละ (หัวเราะ)
—— อย่างเรื่องที่เมื่อก่อนคุณคาชิวากิเคยมาเข้าออดิชั่น Morning Musume ด้วย คุณคิตาโนะพัฒนาบทโดยการใส่เรื่องจริงแบบนั้นลงไปด้วยใช่ไหม
คิตาโนะ : ใช่แล้วครับ ในฉบับ dTV นั้นเซ็ตติ้งให้คุณคาชิวากิไม่ได้มาแสดง แต่ให้ตัวคุณคาชิวากิ ยูกิเองเป็นคนเปิดประตู และสมาชิกฮาโหลโปรเองก็เล่นเป็นตัวเอง เป็นละครประหลาดที่มีแค่คุณคิคุจิเท่านั้นที่แสดงเป็นมาริโกะครับ (หัวเราะ)
—— จุดสำคัญและไฮไลท์ใน "Mayonaka ni Hello!" ออริจินอล dTV ฉบับสมบูรณ์คืออะไร
คิตาโนะ : ถ้าจินตนาการตามสนุกๆไปด้วยว่า "ฮาโหลโปรในห้องแต่งตัวน่าจะประมาณนี้ล่ะมั้ง" ก็น่าสนใจดีครับ การเล่าเรื่องจริงแบบด้นสดของคุณคาชิวากิเองก็เป็นไฮไลท์ครับ สำหรับแฟนตัวจริงแล้ว ตอนที่พูดถึงสิ่งที่ชอบน่าจะพูดรัวเร็วกัน ซึ่งเราจะได้เห็นคุณคาชิวากิที่เป็นแบบนั้นในฉบับ dTV (หัวเราะ) แล้วก็มีตรงที่คุณคิคุจิเล่นตลกด้วย ตรงส่วนที่บอกว่า "ทำมาจนถึงตรงนี้เลยน้า〜" ก็น่าจะเป็นไฮไลท์ที่คาดไม่ถึงเลยล่ะครับ (หัวเราะ)
0 Comments