สวัสดีค่ะ บทสัมภาษณ์ชุด Mayonaka ni Hello! ที่ตั้งใจแปลยังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ เรายังมีบทสัมภาษณ์สมาชิกบางส่วนที่ลงในเว็บ Modelpress มาฝากกันด้วยค่ะ ซึ่งบทสัมภาษณ์ทั้งหมดจะมี 4 อัน และเราจะทยอยลงอาทิตย์ละ 1 ตอนนะคะ สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามอ่านได้ในบล็อกนี้และทางเพจ Hello Pro Moments เช่นเคยค่ะ
สำหรับบทสัมภาษณ์ในชุดแรกจะเป็นอิคุตะ เอรินะ และ อิชิดะ อายูมิจากวง Morning Musume'22 ค่ะ ขอขอบคุณต้นฉบับบทสัมภาษณ์มา ณ ที่นี้ด้วย และเช่นเคยเหมือนทุกครั้ง ขออนุญาต disclaimer ไว้ล่วงหน้าว่าในส่วนของบทแปล เราแปลแบบไม่ได้เป๊ะมาก แปลเพื่อฝึกด้วยแพชชั่นส่วนตัว เอาตามความเข้าใจและพยายามเรียบเรียงให้อ่านง่ายเท่าที่จะทำได้ ถ้ามีความผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ
*ห้ามนำบทแปลทั้งจากในนี้และ Hello Pro Moments ไปโพสต์ที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต*
อิคุตะ เอรินะ & อิชิดะ อายูมิ วง Morning Musume สถานการณ์ที่รู้สึก "อิจฉา" ในระหว่างคอนเสิร์ตคือคำพูดที่มีค่าของอิคุตะซึ่งทำให้อิชิดะประทับใจ
"Mayonaka ni Hello!" คือละครที่ฉายทางช่อง Drama 24 วันพฤหัสบดี (ทาง TV Tokyo ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 00:30 / ทาง dTV ฉายหลังแต่ละตอนจบ สามารถรับชมย้อนหลังได้ทุกตอน) ซึ่งมีสมาชิกของ Hello! Project ร่วมแสดง โดยทาง Modelpress ได้สัมภาษณ์สมาชิกที่ร่วมแสดง สำหรับในครั้งนี้จะเป็นการสัมภาษณ์ อิคุตะ เอรินะ (24) และอิชิดะ อายูมิ (25) จากวง Morning Musume'22 หลังจากฉายตอนที่ 3 จบไปแล้ว ซึ่งจะมาเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในระหว่างการถ่ายทำรวมถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวงด้วย
"Mayonaka ni Hello!" ซึ่งมีสมาชิกฮาโหลโปรแสดง
ฮาโหลโปรนั้นเมื่อเทียบสัดส่วนแฟนคลับชายหญิงแล้วมีจำนวนผู้หญิงมากกว่า แฟนที่เป็นดาราหญิงก็มีมาก และยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายในกลุ่มผู้หญิงอย่างคอลัมน์พิเศษต่างๆในนิตยสาร โดยในผลงานชิ้นนี้จะมีสมาชิกที่แตกต่างกันออกมาแสดงเพลงที่เป็นต้นฉบับของเรื่องราวในแต่ละตอน ส่งเสียงเชียร์ไปถึงผู้ชมในทุกสัปดาห์
มาริโกะ (คิคุจิ โมโมโกะ) แฟนผู้คลั่งไคล้ในฮาโหลโปรและมิซากิ (โอฮาระ ยูโนะ) ผู้เป็นลูกสาวดำเนินกิจการเกสต์เฮ้าส์ "ซันพลาซ่าอาซานุมะ" ซึ่งได้รับรีวิวในเว็บไซต์รีวิวไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ในบรรดาคอมเม้นต์เหล่านั้นมีถ้อยคำปริศนาเขียนไว้ว่า "ประตูจะเปิดออก" ซึ่งประตูบานนั้นจะปรากฏขึ้นทันควันเบื้องหน้าผู้เข้าพักที่มีความทุกข์และเชื่อมต่อไปยังจุดหมายคือห้องแต่งตัวของฮาโหลโปร
ในตอนที่ 3 นี้ สมาชิกที่ถูกเลือกมาของ Morning Musume'22 จะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าโยชิโนะ อายาเมะ (ทาคาสึกิ ซาระ) พนักงานรุ่นพี่ผู้โอบกอดความเจ็บใจที่ถูกรุ่นน้องสายตรงแซงหน้าขึ้นไปเป็นโปรเจ็กต์ลีดเดอร์ โดยร้องเพลง "Jealousy Jealousy" เพื่อสร้างความกล้าให้กับเธอ
อิชิดะ อายูมิ เปิดเผยถึงเรื่องที่ "เขินเลยค่ะ" ในระหว่างถ่ายทำละคร
― ผลงานในครั้งนี้มีเซ็ตติ้งว่า "อีกด้านของประตูเชื่อมต่ออยู่กับห้องแต่งตัวฮาโหลโปร" ความรู้สึกตอนแรกที่ได้ยินเป็นอย่างไรบ้าง
อิคุตะ : คิดว่าอย่างกับ "โดราเอมอน" เลยค่ะ (หัวเราะ)
อิชิดะ : จริงค่ะ
อิคุตะ : แค่ดูตอนแรก ฮาโหลโปรก็แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวที่ตีคู่ไปกับเนื้อเพลงซึ่งท่วมท้นไปด้วยความหวังอันสดใส ประตูที่ปรากฏขึ้นมาเพื่อให้คนที่กำลังทุกข์ใจได้ข้ามผ่านไปนั้นก็วิเศษมากเลยค่ะ
อิชิดะ : ฉันดีใจมากเลยค่ะเพราะในครั้งนี้ สิ่งที่ปกติแล้วพวกเราส่งไปให้แฟนๆทุกคนจะได้สื่อไปถึงยังผู้ชมที่บังเอิญได้ดูไม่ใช่แค่แฟนๆเพียงอย่างเดียวผ่านทางเวทีแห่งใหม่ที่เรียกว่าละครด้วยค่ะ
― ช่วยเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ประทับใจในการถ่ายทำหน่อย
อิคุตะ : ดีใจมากเลยค่ะที่คุณทาคาสึกิบอกว่า เป็นแฟนคลับแล้ว! ถึงจะมีสมาชิกที่ถูกเลือกมาแค่ไม่กี่คนแต่(คุณทาคาสึกิ)ก็ดู Morning Musume'22 แล้วบอกว่า "อยากดูอีกจังค่ะ" ด้วยค่ะ
อิชิดะ : มีซีนที่ฉันกับคุณอิคุตะร้องแร็ปโดยมีระยะห่างกับคุณทาคาสึกิประมาณ 15 ซม.ด้วย ฉันไม่เคยแร็ปกับแฟนๆด้วยระยะห่างแค่นั้นด้วยก็คือเขินเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนครั้งแรกที่เล่นก็คิดว่า "ขอโทษนะคะที่เข้ามาใกล้ซะขนาดนี้..." แต่หลังจากถ่ายฉากนั้นจบ คุณทาคาสึกิก็มากระซิบว่า "เท่จังเลย!" ด้วยค่ะ ฉันเลยพลอยตื่นเต้นไปด้วย
เรื่องที่อิคุตะ เอรินะ และ อิชิดะ อายูมิมีความ "Jealousy Jealousy" ร่วมกันคืออะไร
―ในเพลง "Jealousy Jealousy" ที่แสดงในตอนที่ 3 นี้มีข้อความแบบใดอยู่ในเนื้อเพลง
อิคุตะ : แอบยากนะคะ เป็นเพลงที่รวมเอาความรู้สึกริษยาและอิจฉาที่มีต่อคนที่มีความเป็นผู้หญิงที่พิเศษเอาไว้น่ะค่ะ เป็นเพลงที่เอาไว้ถ่ายทอดความรู้สึกที่น่าจะมีแต่ตัวเองเท่านั้นที่เข้าใจออกไป
อิชิดะ : ถ้าพูดถึงความอิจฉาหรือริษยาแบบนั้นอาจดูมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่เห็นด้วยกับความรู้สึกเหล่านั้นค่ะ ถ้าได้ยินแค่คำว่า "ความอิจฉา" ก็อาจมองไปในทางลบ แต่ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น "เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน เลยต้องพยายามเอามันมาเป็นแรงขับเคลื่อนไง" เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่อยู่เคียงข้างความรู้สึกของตัวเองค่ะ
― ทั้งสองคนมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกร่วมกับเพลงเพลงนี้บ้างหรือเปล่า
อิคุตะ : นั่นสินะคะ การแบ่งท่อนร้องเพลงใหม่ของ Morning Musume'22 นั้นจะแบ่งหลังจากอัดเสียงเสร็จค่ะ พอได้ดูแผ่นเนื้อเพลงทีหลังแล้วเห็นว่ามีท่อนร้องของตัวเองน้อยก็จะรู้สึกเจ็บใจ และในทางกลับกัน ถ้าได้ท่อนที่ตัวเองอยากร้องก็จะดีใจค่ะ แล้วก็ตำแหน่งที่ยืนตอนถ่ายปก บางทีก็คิดว่า "มีท่อนร้องแต่ไม่ได้อยู่ตรงกลางเนี่ยนะ" อยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่านั่นคือตำแหน่งที่จะโชว์ผลงานของ Morning Musume'22 ได้ดีที่สุดค่ะ แบบนี้จะเรียกว่า "Jealousy Jealousy" ได้หรือเปล่านะ
อิชิดะ : คงเป็นเรื่องที่มีแฟนๆหันมองสมาชิกคนอื่นทั้งที่ฉันอยู่ข้างหน้าเขาในระหว่างคอนเสิร์ตล่ะมั้งคะ (หัวเราะ) ในเวลาแบบนั้นฉันจะแสดงไปพร้อมกับความรู้สึกที่ว่า "ฉันอยู่ตรงนี้ มองฉันสิ!" ค่ะ (หัวเราะ)
เพลงฮาโหลโปรอยากฟังเสริมกำลังใจของอิคุตะ เอรินะ และ อิชิดะ อายูมิคือเพลงอะไร
― สมมติว่าบังเอิญมีประตูมาปรากฏอยู่ต่อหน้าทั้งสองคน อยากได้เพลงฮาโหลโปรเพลงไหนช่วยเสริมกำลังใจ
อิคุตะ : ของฉันคือเพลง "Oshare!" ของคุณมัตสึอุระ อายะค่ะ เพลงร้องถึงหัวใจของหญิงสาวที่อยากแต่งตัวแต่งหน้าให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งฉันรู้สึกว่าเนื้อเพลงที่แสดงถึงความรู้สึกที่อยากพยายามแต่งสวยให้เต็มที่แต่มากเกินไปจนกลับตาลปัตรไปนิดหน่อยมันน่ารักดีค่ะ ถ้าคุณมัตสึอุระมาร้อง "Oshare!" ต่อหน้าล่ะก็ฉันคงรู้สึกอยากพยายามแต่งสวยให้มากขึ้นไปอีกค่ะ
อิชิดะ : ฉันอยากให้เชื่อมไปยังห้องแต่งตัวของ BEYOOOOONDS แล้วร้อง "Furefure Everybody" ให้ฉันค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงให้กำลังใจตรงตามชื่อเพลง ตอนที่ได้เห็น BEYOOOOONDS ร้องเพลงนี้ตอนซ้อมคอนเสิร์ตจริงครั้งเดียวฉันก็รู้สึกว่าตัวเองยิ้มไม่หุบและได้กำลังใจมาเยอะมากค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงแบบนั้น ถ้ามาร้องให้แค่ตัวฉันก็คงจะมีกำลังใจสุดๆไปเลยล่ะค่ะ
― ตอนที่ทั้งสองคนรู้สึกท้อแท้มักจะเยียวยาด้วยอะไร
อิคุตะ : ฉันชอบอาบน้ำมากก็เลยซื้อดีเกลือฝรั่ง (Epsom salt) ตามที่ช่างแต่งหน้าแนะนำมาค่ะ! ซื้อแบบผสมวิตามินซีมา ช่วงนี้เลยมีความสุขกับการอาบน้ำค่ะ (หัวเราะ)
อิชิดะ : ฉันก็ดูที่คุณอิคุตะแนะนำในอินสตราแกรมแล้วซื้อมาเหมือนกันค่ะ แต่ยังไม่ได้ใช้เลยนะคะ (หัวเราะ)
อิคุตะ : (หัวเราะ)
อิชิดะ : การหัวเราะเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาฉันค่ะ อย่างการฟังเรื่องที่สมาชิกคุยกัน หรือดูคลิปของคุณ kajisac ใน YouTube ความน่ารักของพวกลูกๆก็ช่วยเยียวยาฉันค่ะ
เบื้องหลังของ Morning Musume'22 ที่เปิดเผยโดยอิคุตะ เอรินะ
― "ห้องแต่งตัว" ก็เป็นอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดในผลงานครั้งนี้ ช่วยเล่าถึงสภาพห้องแต่งตัวของ Morning Musume'22 โดยทั่วไปหน่อย
อิคุตะ : ถ้าเป็นห้องแต่งตัวในคอนเสิร์ต เรามักแบ่งกลุ่มอายุมากและอายุน้อยกลุ่มละ 5 คน แต่จะจัดปาร์ตี้ขนมกันตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะเคยแสดงวันนึง 3 รอบแล้วไม่มีแรง แต่ละคนเลยมักเอาขนมมาแล้วเล่นเกมหมาป่าหรือเล่นไพ่กันช่วงว่างค่ะ
― รีแลกซ์กันผิดคาดเลยนะนี่
อิคุตะ : ใช่แล้วค่ะ! ยิ่งบนเวทีต้องเนี๊ยบเท่าไหร่ ในห้องแต่งตัวทุกคนก็ยิ่งปล่อยตัวจัดปาร์ตี้ขนมกันอย่างสนิทสนมค่ะ (หัวเราะ)
― ถ้างั้นช่วยเล่าถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆของทั้งสองคนในช่วงนี้ให้ฟังหน่อยสิ
อิชิดะ : ฮ่าๆๆ (หัวเราะ)
อิคุตะ : อ๊ะ! พวกเราทำผมสำหรับขึ้นเวทีได้อย่างอิสระค่ะ ทุกครั้งฉันจะได้ทำผมทรงที่ตัวเองอยากทำ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากมัดผมครึ่งหัวแล้วติดโบว์อันใหญ่ๆ แต่คนที่มีโบว์อันใหญ่ติดอยู่น่ะมีแค่อายูมิจังเท่านั้น พอพูดว่า "อยากได้โบว์จังเลย~" ในห้องแต่งตัวก็เลยได้มาค่ะ (หัวค่ะ)
อิชิดะ : ไม่ได้รู้สึกกดดันขนาดนั้นสักหน่อยนะคะ! (หัวเราะ)
― แต่เดิมแล้วเป็นของที่อายูมิจังติดสินะ
อิชิดะ : ใช่แล้วค่ะ! แต่เดิมแล้วเพลงที่ฉันจะร้องต่อก็เป็นเพลงเท่ๆอยู่แล้ว เลยคิดว่าถ้าอิคุตะซังติดน่าจะน่ารักก็เลยบอกไปว่า "เชิญค่า!" (หัวเราะ)
อิคุตะ : ใช่ค่ะ แย่งมาค่ะ (หัวเราะ) แต่จากที่ฉันลองเสิร์ชเน็ตดูก็เหมือนจะมีแฟนแค่คนเดียวที่สังเกตเห็นนะคะ
อิชิดะ : ไม่มีใครมองเลย (หัวเราะ)
อิคุตะ : ถ้ามีคนเจอว่าพวกเราแลกเครื่องประดับผมกันระหว่างสมาชิกหลายๆคนก็น่าจะสนุกเกิดคาดเลยค่ะ คิดว่าถ้าไม่ได้ชอบอะไรมากก็ไม่น่าจะรู้ แต่ถ้ารู้ก็ดีใจค่ะ (หัวเราะ)
"ฉันอาจไม่ได้สนุกกับสิ่งที่เรียกว่าไอดอลก็ได้" อิชิดะ อายูมิ ประทับใจกับคำพูดของอิคุตะ เอรินะ
― มีการสนับสนุนจากผู้หญิงสูงขึ้นเรื่อยๆ เลยอยากให้ช่วยบอกสไตล์แฟชั่นของทั้งสองคนช่วงนี้หน่อย
อิคุตะ : ถ้าพูดถึงแฟชั่น อืม อาจจะถูกค่อนแคะบ้างนิดหน่อยนะคะ แต่ปกติแล้วฉันเข้ากับทุกอย่างเลยค่ะ
― คือเข้ากับทุกแบบเลยสินะ
อิคุตะ : แต่ระยะหลังมานี้มีวิธีคิดเรื่องว่าจะเข้าหรือไม่เข้ากับ personal color หรือรูปร่างเข้ามาด้วยใช้ไหมละคะ เลยต้องให้ความสำคัญกับแฟชั่นที่กำหนดไว้อย่างนั้น แต่ฉันน่ะเลือกใส่จากแฟชั่นที่ชอบมากกว่า แล้วก็คิดว่ามันเริ่มเข้ากับตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆล่ะค่ะ เรียกว่าให้ความสำคัญกับการใส่เสื้อผ้าที่ชอบและเป็นตัวเองมากกว่าที่จะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ชอบเพราะแบบทดสอบ ฉันมองผู้หญิงในปัจจุบันแล้วก็คิดแบบนี้ค่ะ ที่จริงผู้หญิงที่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ชอบแล้วยิ้มได้ต่างหากถึงจะเปล่งประกายค่ะ
อิชิดะ : อิคุตะซังเนี่ย ปกติแล้วจะดูเฉยๆ แต่พออยู่บนเวทีจะกลายเป็นคนนำแฟชั่นทรงผมสวยๆ ถ่ายรูปขึ้นอยู่เสมอ เหมือนจะพูดว่า "ก็เป็นไอดอลนี่นา มาสนุกกันเถอะ!" เลยค่ะ ฉันประทับใจว่าประโยคนั้นมันเท่จริงๆ แล้วก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่าที่จริงแล้วฉันอาจไม่ได้สนุกกับสิ่งที่เรียกว่าไอดอลก็ได้ ช่วงหลังมานี้เลยลองยื่นมือไปหาเสื้อผ้าน่ารักๆ ใส่ชุดแนวน่ารักๆในอีเวนต์วันเกิดของตัวเองดูบ้าง และรู้สึกสนุกกับตัวเองใน "ตอนนี้" ขึ้นมาค่ะ
เป้าหมายในปี 2022 ของอิคุตะ เอรินะ และ อิชิดะ อายูมิ
― งั้นช่วยบอกเป้าหมายในปี 2022 ของทั้งสองคนหน่อย
อิคุตะ : นี่มัน ดันออกไปด้านหน้าสินะคะ?
อิชิดะ : หมายความว่าไง? (หัวเราะ)
อิคุตะ : เป้าหมายที่นึกได้คือช่วงนี้เริ่มทำเดอร์มาเพน (Derma Pen คือเครื่องมือช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังให้สร้างคอลลาเจน เป็นการเสริมความงามชนิดหนึ่ง) และดีใจที่ผิวสวยขึ้นค่ะ ปีนี้ตั้งใจว่าจะทนไม่ใช้ฟิลเตอร์ให้ได้ เลยมีเป้าหมายว่าจะต้องมีผิวที่สวยจนตัวเองยอมรับได้ที่จะไม่ใช้ฟิลเตอร์ในโลกที่พัฒนาขึ้นขนสามารถน่ารักขึ้นได้ด้วยการใช้แอพค่ะ! นี่เป็นเป้าหมายลับนะคะ แต่ก็เผลอแสดงออกมาเสียแล้วค่ะ (หัวเราะ)
อิชิดะ : ยังไงฉันอยากให้เป็นหนึ่งปีที่สนุกสนานค่ะ ฉันเนี่ยถ้าทำผิดพลาดก็จะเผลอสำนึกผิดทันทีแม้จะอยู่ระหว่างการทำงานน่ะค่ะ คงมีคนที่คิดว่าการสำนึกผิดเป็นเรื่องดีอยู่ แต่มันทำให้ฉันท้อแท้เวลาแสดงจริงค่ะ เลยต้องพยายามจะเก็บความสำนึกผิดกลับไปที่บ้าน อยากระวังและสนุกสนานในระหว่างที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ค่ะ
เคล็ดลับในการทำฝันให้เป็นจริงของอิคุตะ เอรินะ และ อิชิดะ อายูมิ
― สุดท้ายนี้ขอคำแนะนำถึงเคล็ดลับในการทำฝันให้เป็นจริงของทั้งสองคนให้กับผู้อ่าน Modelpress ทุกคนที่ทำลังไล่ตามฝันหน่อย
อิคุตะ : สิ่งสำคัญคือไม่ยอมแพ้ค่ะ ฉันอยากเป็น Morning Musume มาตั้งแต่สมัยอนุบาล ในอัลบั้มจบการศึกษาก็เขียนไว้ว่า "อยากเป็น Morning Musume" ด้วยค่ะ จากนั้นตอนอยู่ชั้นมัธยมต้นปี 1 ในที่สุดก็กล้าไปออดิชั่น เลยคิดว่าไม่ว่าสมัยไหน การไล่ตามความฝันในอนาคตและสิ่งที่หลงใหลนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก และคนที่ไม่ยอมแพ้ก็จะทำความฝันให้เป็นจริงขึ้นมาได้ค่ะ
อิชิดะ : ของฉันคือการหาคนที่จะมาทำด้วยกัน ซึ่งคนนั้นจะเป็นคนที่คอยสนับสนุนอยู่ก็ได้ จะเป็นคนที่ตัวเองสามารถปรึกษาได้ด้วยมากที่สุดก็ได้ คือหาคนที่จะคอยช่วยเหลือในสิ่งที่ตัวเองอยากทำให้ได้ตามคำพูดเลยก็ได้ค่ะ การยืมแรงคนอื่นนั้นถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีมากค่ะ ฉันว่าการมีหรือไม่มีคนที่คอยผลักดันและส่งเสียงเรียกในเวลาที่เหมือนจะแตกสลายนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน ถ้าพบกับคนแบบนั้นแล้วการพึ่งพาก็เป็นสิ่งสำคัญใช่ไหมล่ะคะ ฉันเองก็คิดได้ว่าจะพยายามเพราะมีแรงสนับสนุนจากพวกแฟนๆนี่แหละค่ะ
― ขอบคุณสำหรับบทสนทนาดีๆ
0 Comments