[Review] 優しい式神の飼い方


     สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากหายไปพักใหญ่ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพยายามเคลียร์อะไรหลายๆอย่าง รวมถึงหนังสือที่ดองไว้ด้วยค่ะ (ทั้งภาษาไทยและภาษาญี่ปุ่นที่ซื้อกันแทบทุกรอบที่แวะคิโนะฯ)

     สำหรับเล่มนี้ เป็นหนังสือเล่มแรกในซีรีย์ยมทูตค่ะ ซึ่งตัวเราเองอ่านแบบสลับกัน คืออ่านเล่ม 2 เรื่อง 黒猫の小夜曲 (セレナーデ) มาก่อนแล้วค่อยซื้อเล่มนี้มาอ่าน ตอนที่อ่านเล่มสองจบแล้วโอเคเลยตัดสินใจสั่งเรื่องนี้กับทางคิโนะฯมาอ่านต่อค่ะ เล่มนี้จริงๆเริ่มอ่านมานานแล้วล่ะ แต่อ่านแล้วก็มีหยุดไปช่วงนึงด้วยเหตุผลส่วนตัวบ้าง อะไรบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็มาอ่านต่อเรื่อยๆจนจบค่ะ


(ภาพจาก Amazon)

ชื่อเรื่อง : 優しい死神の飼い方 (Yasashii Shinigami no Kaikata)
ผู้เขียน :  知念 実希人 (Mikito Chinen)
สำนักพิมพ์ : 光文社文庫 (Kobunsha Bunko)
จำนวนหน้า : 411 หน้า
ราคา : 680 เยน + ภาษี


     เมื่อจิตวิญญาณชั้นสูง ผู้ทำหน้าที่นำพาดวงวิญญาณมนุษย์ขึ้นไปสู่ "นายเหนือหัว (我が主様)" หรือที่มนุษย์มักเรียกกันว่า "ยมทูต (式神)" มีปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่งคือ ดวงวิญญาณติดที่ (地縛霊) ซึ่งเกิดจากการที่มนุษย์เสียชีวิตลงโดยยังมีความอาวรณ์ (未練) อาจจะด้วยความเจ็บป่วย ถูกฆาตกรรม บาดแผลในอดีต หรืออะไรก็ตามที่ผูกมัดดวงวิญญาณจนไม่สามารถนำพาขึ้นไปสู่นายเหนือหัวได้ โดยผู้นำทางเองไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งกับดวงชะตาหรือสัมผัสกับมนุษย์ได้โดยตรง จึงทำให้เกิดปัญหาดวงวิญญาณติดที่ตกค้างอยู่บนโลกมนุษย์มากขึ้น ดังนั้น หัวหน้าของผู้นำทางและนายเหนือหัว จึงสั่งให้จิตวิญญาณชั้นสูงหนึ่งดวงลงมาอยู่ในร่างของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เพื่อหาทางปลดปล่อยมนุษย์จากความอาวรณ์ก่อนเสียชีวิต และให้ไปประจำอยู่ในโรงพยาบาลสำหรับพักฟื้นในระยะสุดท้าย (ホスピス หรือ hospice) เล็กๆบนเนินเขาแห่งหนึ่งที่ดัดแปลงมาจากคฤหาสน์เก่า ซึ่งมีผู้ป่วยระยะสุดท้ายเข้าพักไม่มากนัก

     จิตวิญญาณชั้นสูงในร่างของสุนัขได้ชื่อว่า "เลโอ" ได้อาศัยอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วยความช่วยเหลือของนาโฮะ นางพยาบาลและลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ที่พบกับเลโอในคืนหิมะตก เมื่อเลโอได้เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลแล้วก็เริ่มทำงานของเขาทันที โดยผู้ป่วยแต่ละคนในโรงยาบาลนี้ต่างก็มีความอาวรณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งความรักอันแสนเศร้าของชายหนุ่มยากจนกับลูกสาวเศรษฐีที่เคยอาศัยอยู่ ณ คฤหาสน์แห่งนี้ในสมัยสงครามโลก อดีตเจ้าของร้านจิลเวลรี่ในเมืองที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าฆาตกรรมครอบครัวที่เคยอาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้เมื่อ 7 ปีก่อน และจิตรกรหนุ่มที่สูญเสียความสามารถในการใช้สีไปจากความช็อกที่คิดว่าลูกชายของเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ที่ถูกฆาตกรรมไปเมื่อ 7 ปีก่อนนำภาพเขียนของตัวเองที่เขียนและยกให้ด้วยใจไปขายเอากำไรกับร้านรับซื้องานศิลปะ รวมถึงความว้าวุ่นใจของนาโฮะที่มีต่อคุณหมอหนุ่มซึ่งเข้ามาตรวจที่โรงพยาบาลเป็นประจำ แต่ก็รู้ดีตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นานนักเนื่องจากอาการป่วยจนไม่กล้าบอกความในใจ

     เรื่องราวของทุกคนล้วนมีความเกี่ยวข้องกับตัวคฤหาสน์เก่าแก่ รวมถึงปริศนาที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ด้วย ซึ่งเลโอเองต้องรับหน้าที่เป็นผู้ไขข้อข้องใจและคอยแนะแนวทาง รวมถึงช่วยเหลือทุกคนให้รอดพ้นจากอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาสู่โรงพยาบาลแห่งนี้


     เนื้อหาในเล่มนี้จะดำเนินเรื่องเหมือนกับอีกเล่มในซีรีย์เดียวกัน โดยเริ่มจากการไขปริศนาของแต่ละคนไปเรื่อยๆ และเรื่องราวของทุกคนมีความเกี่ยวเนื่องกัน เพียงแต่ตัวเอกเป็นสุนัข โดยส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่าตัวเอกในเล่มนี้จะมีความดื้อรั้นน้อยกว่าแหละอ่อนโยนกว่าแมวในเล่ม 2 เลโอมีการเรียนรู้ รวมถึงการเติบโตทางอารมณ์ที่เห็นได้ชัดกว่า ความเข้มข้นของเรื่องราวของแต่ละคนจะไม่หวือหวาเท่าเล่ม 2 แต่มีความแฟนตาซีในวิธีการแก้ปัญหาของตัวเอกที่เห็นได้เด่นชัดกว่า เรียกว่าสามารถอ่านไปได้เรื่อยๆค่ะ ในเรื่องก็จะมีศัพท์ทางการแพทย์โผล่มาเป็นระยะๆ เพราะเซ็ตติ้งฉากอยู่ในโรงพยาบาลด้วยส่วนนึง

     ด้วยความที่เล่มนี้ถูกจัดประเภทไว้เป็น Heartful Mystery เพราะงั้นเรื่องก็จะไม่ใช่สืบสวนสอบสวนเต็มขั้น แต่เป็นเรื่องที่มีปริศนาพอให้ได้ลุ้นและเพลิดเพลินไปกับการเติบโตและความสัมพันธ์ระหว่างเลโอกับนาโฮะเสียมากกว่า เรื่องราวถูกเล่าผ่านสายตาและความนึกคิดของเลโอทั้งหมด ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของเลโอที่ได้เรียนรู้คำว่า "รัก" "ตาย" "ความเจ็บปวด" "ความหวาดกลัว" รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดในแบบของมนุษย์ได้มากที่สุด

     ส่วนในเรื่องของภาษา มีทั้งยากและง่ายปนกันไปค่ะ ตัวเลโอนั้นจะค่อนข้างใช้ภาษาที่เป็นญี่ปุ่นจ๋า (ในเนื้อเรื่องบอกว่า เลโอประจำอยู่ในญี่ปุ่นมานาน จึงได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นมาก และไม่ค่อยรู้จักเทคโนโลยีรวมถึงคำศัพท์ภาษาต่างประเทศมากเท่าไหร่นัก อารมณ์เหมือนคนแก่ที่ตามโลกไม่ทันหลายๆอย่างค่ะ) แต่ไม่ยากเกินความเข้าใจ หลายจุดต้องเปิดดิคช่วยบ้าง แต่โดยรวมแล้วอ่านไหลๆไปได้เรื่อยๆค่ะ


     แล้วพบกันใหม่รีวิวเล่มหน้านะคะ

Post a Comment

0 Comments