[Review] 記憶屋


     สวัสดีค่า กลับมาอีกแล้วกับรีวิวหนังสือนิยายญี่ปุ่นของเรา กับเรื่อง 記憶屋 (kiokuya) นิยายแนว horror ที่ได้รับรางวัล 日本ホラー小説大賞 (รางวัลนิยายสยองขวัญของญี่ปุ่น) ครั้งที่ 22 ค่ะ

     รอบนี้มาเร็วเพราะอ่านจบเร็วค่ะ ถ้าใครตามทวิตเตอร์เราน่าจะได้เห็นผ่านๆตากันแล้ว มีหลายคนเมนชั่นมาบอกว่าสนใจเรื่องนี้กันด้วยค่ะ เราเองก็เล่าเรื่องคร่าวๆในทวิตไปจนถึงบทที่ 2 แล้ว แต่ตัดสินใจไม่เล่าต่อ ขอเก็บไว้ก่อนเผื่อมีคนอยากไปหาอ่านตาม อีกอย่างคือเล่มนี้ไม่ได้เป็นหนังสือเล่มเดียวจบ ยังมีเล่ม 2-3 ต่อไปอีก (ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจว่าจบแค่ 3 เล่มด้วยหรือเปล่า) เลยไม่อยากสปอยไปมากกว่านี้ค่ะ


(ภาพจาก Amazon)

ชื่อเรื่อง : 記憶屋 (kiokuya)
ผู้เขียน : 織守きょうや (Kyoya Origami)
สำนักพิมพ์ : 角川ホラー文庫 (Kadokawa Horror Bunko)
จำนวนหน้า : 302 หน้า
ราคา : 600 เยน + ภาษี 


      ตำนานเมือง (都市伝説) เล่าว่า หากคุณไปนั่งในม้านั่งสีเขียวในสวนสาธารณะตอนเย็น บุคคลลึกลับที่เรียกว่า "ร้านความทรงจำ (記憶屋)" จะปรากฏกายขึ้น เขาจะช่วยลบความทรงจำที่อยากลืมตามที่คนเหล่านั้นร้องขอให้ โดยร้านความทรงจำนี้ไม่ใช่ตำนานเมืองเรื่องดังที่แพร่หลายทั่วไปเหมือนอย่างเรื่องฮานาโกะหรือผีสาวปากฉีกที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ เป็นเพียงตำนานรองๆที่มีพูดถึงเฉพาะในกลุ่มและไม่มีข้อมูลอะไรให้สืบค้นมากนัก

     เรียวอิจิ ตัวเอกของเรื่องเคยได้ยินตำนานนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่เขาเองก็ไม่เคยสนใจและคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล่าเหลวไหลเหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ทว่า รอบตัวเขากลับมีคนที่จู่ๆความทรงจำก็หายไปอย่างหมดจดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอยู่หลายคน ซึ่งความทรงจำเหล่านั้นเคยเป็นสิ่งที่ลืมไม่ลงมาก่อน แต่คนเหล่านั้นกลับลืมไปเสียง่ายๆในชั่วข้ามคืนและนึกไม่ออกว่าเคยมีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง และคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือเคียวโกะ รุ่นพี่ที่เขาแอบชอบอยู่

     เคียวโกะนั้นมีอดีตฝังใจจากการเคยถูกโรคจิตไล่ตามตอนกลางคืนเมื่อครั้งยังเด็ก ทำให้เธอเกิดอาการหวาดกลัวและไม่กล้ากลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดิน ในตอนแรก เรียวอิจิเองที่สนใจเคียวโกะก็เสนอและหาทางช่วยเธอหลายๆอย่าง ทั้งไปส่งตอนกลับบ้านดึก ช่วยฝึกให้เธอกล้ากลับบ้านตอนมืดได้ แต่ตัวเคียวโกะเองทุกข์ทรมานกับอาการนี้มากกว่าที่เรียวอิจิคิด เธอพยายามหาวิธีรักษามาโดยตลอดแม้แต่ไปปรึกษาหมอ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเลยสักนิด เพราะความทรงจำที่น่าหวาดกลัวฝังรากลึกจนไม่สามารถสลัดพ้น จนในที่สุดแล้ว เคียวโกะจึงออกตามหาร้านความทรงจำ และลืมเรื่องราวที่เคยหวาดกลัวไปได้จนหมดสิ้น... รวมถึงความทรงจำที่เธอเคยมีร่วมกับเรียวอิจิด้วย

     ด้วยเหตุนี้ เรียวอิจิที่ถูกลืมจึงเริ่มออกตามหาร้านความทรงจำในตำนานเมืองนั้น ตัวเขาเองคิดว่ามันไม่แฟร์ที่คนเราจะลืมเรื่องเลวร้ายในอดีต เพราะถึงแม้ความทรงจำจะขมขื่นแค่ไหน แต่เราควรต้องข้ามผ่านมันไป การลืมอาจจะเป็นวิธีที่ง่ายและสบาย แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นการหนีปัญหาด้วยเช่นกัน และไม่ยุติธรรมกับคนที่เป็นฝ่ายถูกลืมด้วย


     เรื่องนี้เล่าเรื่องแบบสลับฉาก โดยเล่าเหตุการณ์ของตัวเอกปูพื้นก่อนในครั้งแรก จากนั้นจะมีบทคั่นของตัวเอกในระหว่างการสืบหาว่าเขาไปพบใคร คุยอะไรมาบ้าง และในบทต่อๆมาจะเป็นเรื่องราวของคนที่เขาเข้าไปคุยด้วยเพื่อเก็บข้อมูล เหมือนเป็นเรื่องสั้นเกี่ยวกับร้านความทรงจำที่คนเหล่านั้นได้ประสบ ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นค่อนข้างบีบหัวใจหนักกว่าของพระเอก มีทั้งเรื่องของทนายความหนุ่มที่ป่วยด้วยโรคซึ่งไม่มีทางรักษา เรื่องของเด็กสาวที่หลงรักเพื่อนสนิทและลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปจนหมดสิ้น เมื่อการสืบค่อยๆงวดเข้ามา จิ๊กซอว์แต่ละชิ้นก็ค่อยๆปะติดปะต่อกันออกมาจนชัดเจนว่า ร้านความทรงจำนั้นคือใคร และทำไปเพื่ออะไร

     โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบวิธีการเล่าเรื่องของคนเขียนมากค่ะ อ่านได้ลื่นไหล ปะติดปะต่อกันได้ง่ายมาก และชอบประเด็นหลักของเรื่องที่พูดถึงการลบความทรงจำของร้านความทรงจำว่า การที่ความทรงจำที่อยากลืมหายไปได้นั้นคือเรื่องดีจริงๆหรือ ทั้งกับตัวเอง ทั้งกับคนที่ถูกลืม คนที่เรียกร้านความทรงจำมาและถูกลบความทรงจำนั้นไปอาจคิดว่า ร้านความทรงจำนั้นคือผู้มีพระคุณ คือผู้ที่ช่วยให้เขาเหล่านั้นหลุดพ้นจากความทรงจำอันแสนขมขื่นและทรมาน ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่คุณเห็นแก่ตัวเองฝ่ายเดียวหรือเปล่า แล้วคนรอบข้างล่ะ? เพราะความทรงจำนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นและมีอยู่แค่กับตัวคนคนเดียว แต่มาจากประสบการณ์และการปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย เป็นสิ่งที่ทับซ้อนกันอยู่ในตัวบุคคลและก่อให้เกิด "ตัวตน" ในปัจจุบัน การลบความทรงจำก็เหมือนบุคคลเหล่านั้นที่เคยมีตัวตนอยู่ถูกลบหายไป สิ่งที่เคยเป็นรากฐานของชีวิตส่วนหนึ่งแหว่งวิ่นไป มองอีกแง่นึงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก ยิ่งหากเป็นคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมา แล้วจู่ๆสิ่งเหล่านั้นก็กลับหายไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ฝ่ายที่ยังคงจดจำจะทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าฝ่ายที่ลืมหรือเปล่า?


     เรื่องภาษา ไม่ได้อ่านง่ายแต่ก็ไม่ได้อ่านยากค่ะ บางครั้งจะมีมึนๆกับคันจิชื่อคนเล็กน้อยเพราะชื่อไม่ค่อยคุ้นเคยสำหรับเราเท่าไหร่นัก แต่โดยรวมแล้วก็อ่านไม่ลำบากและเนื้อหาดีมากๆค่ะ ตั้งใจแล้วล่ะว่ายังไงก็ซื้อหนังสือชุดนี้ต่อจนจบแน่นอน แล้วตอนนี้จดหนังสือชุดอื่นๆของคนเขียนคนเดียวกันลงลิสต์ไว้แล้วด้วย แฮ่


     แล้วพบกันใหม่ในรีวิวเล่มหน้าค่ะ

Post a Comment

0 Comments