:: ป้ายยา E-Reader :: Kindle Basic 2022 & Meebook M7

 

     สวัสดีค่า วันนี้มาพับกบ พบกับบล็อกป้ายยา(?) เครื่อง E-Reader ของเรากันค่ะ ก่อนอื่นขอเล่าสั้นๆ ก่อนว่าส่วนตัวเราอยากได้เครื่อง E-Reader มานานมากแล้วค่ะ ช่วงแรกๆ ที่เราหันมาอ่านอีบุ้คเราอ่านในแท็บเล็ตเป็นหลักเพราะเราเริ่มไม่มีที่เก็บหนังสือเล่มแล้ว (ยังไม่ได้จัดบ้านสักที) บวกกับการแบกหนังสือไปไหนมาไหนก็หนักด้วยเลยเลือกที่จะซื้อหลายๆ เล่มเป็นอีบุ้คล้วแบกแท็บเล็ตแทน แต่พออ่านในแท็บเล็ตไปนานๆ เข้า สิ่งที่ตามมาคืออาการแสบตา ตาล้า ปวดตา แล้วเราเป็นคนชอบนอนอ่านหนังสือด้วย แท็บเล็ตเลยออกจะหนักไปสักหน่อยเวลานอนอ่านตอนปิดไฟกลางคืนค่ะ (ซึ่งก็นั่นแหละ สายตาเลยสั้นขึ้นอีก ทุกคนอย่าเลียนแบบนะ)

     จากเหตุผลที่ว่ามา พอเราอ่านอีบุ้คในแท็บเล็ตมาได้ประมาณปีนึง พอจะรู้สไตล์การอ่านของตัวเองแล้วว่าเราอ่านอีบุ้คลักษณะไหนเยอะ ใช้แอพไหนเยอะบ้าง เราก็เริ่มสนใจตัวเครื่อง E-Reader แล้ว เพราะเห็นว่าเครื่องนี้เวลาอ่านแล้วตาจะไม่ล้า เวลาอ่านเหมือนอ่านหนังสือกระดาษ และอ่านในที่มืดได้เพราะมีไฟ เอาละสิๆ เราเลยไปสิงในห้อง ชุมชนนักอ่าน eBook ในเฟซบุ้คเก็บข้อมูลอยู่เป็นปีเลยค่ะ ช่วงแรกๆ ที่เห็นยังรู้สึกว่ายังอ่านกับแท็บเล็ตไหวแหละ ราคาแพงด้วย หลายอย่างยังไม่ค่อยตอบโจทย์ด้วยก็เลยเอาไว้ก่อนๆ แต่ก็ส่องในกลุ่มเป็นระยะๆ 


(เครื่อง Kindle Basic 2022 และ MeeBook M7)

     เครื่องที่สนใจตอนแรกเลยคือเครื่อง Kindle เพราะรู้สึกตัวเองอ่านจากคินเดิลเยอะมาก พอตัดสินใจได้+มีรุ่นที่อยากได้จริงๆ แล้วก็เลยจัดมาเลย แต่เครื่องแอนดรอยด์เนี่ย ตอนแรกก็คิดแหละว่าจะอ่านในแท็บเล็ตต่อไป แต่สุดท้ายก็ไม่รอดค่ะ ไปเจอรุ่นที่ค่อนข้างจะตรงสเป็คก็เลยเอาเลยละกัน จัดมาโลด ทำให้ตอนนี้เรามี E-Reader ในครอบครองสองเครื่องเรียบร้อย

     สำหรับเอนทรี่ป้ายยาในวันนี้ก็จะมาเล่าเม้าท์มอยให้ฟังหลังจากใช้ทั้งสองเครื่องอ่านหนังสือจบไปเครื่องละ 2-3 เล่มแล้ว ก็จะมาพูดในแง่มุมคนใช้งานกันนะคะว่าใช้แล้วรู้สึกแบบไหน ชอบ-ไม่ชอบอะไรอย่างไรบ้างเอาไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับคนที่สนใจค่ะ



  :: Kindle Basic 2022 (Denim) ::  

     ตอนแรกสุดเรากดสั่ง Kindle Basic 2022 มาก่อน ตัวนี้เป็นรุ่นล่าสุด ราคาไม่แรง และตอบโจทย์เราเรื่องน้ำหนักและขนาดมาก เพราะเราตั้งใจเอาไว้อ่านพวก 文庫 ซึ่งจะเป็นไฟล์ที่ปรับตัวหนังสือได้เป็นหลักอยู่แล้ว (พวกนิตยสารหรือภาพสีที่ตัวหนังสือเยอะๆ พวกนั้นจะยังใช้แอพในแท็บเล็ตเหมือนเดิม) ซึ่งหนังสือ 文庫 พวกนี้ก็คือเล่มที่เราชอบยืมอ่านใน Kindle Unlimited ทั้งหลาย รวมถึงนิยายที่ชอบกดช่วงคืนพอยต์ลดราคาเยอะๆ ด้วย เหตุผลหลักๆ เลยคือ กดอีบุ้คแล้วได้ราคาถูกกว่าหนังสือเล่ม กดแล้วอ่านได้เลยในทันทีไม่ต้องใช้พื้นที่เก็บ และดองได้เยอะ พกพาไปไหนมาไหนสะดวกค่ะ (แฮ่)



     สำหรับเราที่อ่านหนังสือภาษาญี่ปุ่นในคินเดิลเป็นหลัก เราเลือกกดเครื่องเองแบบไม่ติดโฆษณาจากเว็บอเมซอนเจแปนไปลงโกดังแล้วส่งมาไทยอีกที คือจริงๆ แล้วเครื่องคินเดิลก็มีขายในพวกแอพส้มทั้งหลายนะคะ ถ้าคนอ่านหนังสือภาษาอังกฤษจะสามารถไปขอให้ทางอเมซอนถอดโฆษณาที่ล็อกสกรีนออกได้ฟรี แต่สำหรับอเมซอนเจแปนเขาไม่ใจดีขนาดจะถอดให้ฟรีๆ แบบทางอเมริกา เลยเลือกกดเครื่องเองดีกว่าค่ะ

     สำหรับเครื่องคินเดิล ปกติแล้วจะอ่านหนังสือภาษาไทยไม่ได้ (จริงๆ มีวิธีอยู่แต่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับเราเลยไม่เอาดีกว่า) เหมาะกับการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศที่ตัวเครื่องรองรับ ดังนั้นถ้าใครที่อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศและหนังสือเหล่านั้นมีขายในอเมซอน เครื่อง Kindle ถือเป็นตัวเลือกที่ดีลำดับต้นๆ เลยค่ะ

     ส่วนตัวแล้วเราใช้ทั้งอ่านหนังสือ 文庫 และอ่านการ์ตูนด้วย แต่ด้วยความที่หน้าจอเล็กแค่ 6 นิ้ว ถ้าเจอการ์ตูนที่ตัวหนังสือเล็กๆ คงไม่เหมาะที่จะใช้อ่านเท่าไหร่ แต่กับ 文庫 ที่สามารถปรับขนาดตัวอักษรได้ เราว่าหน้าจอ 6 นิ้วเหลือเฟือมากแล้ว ที่ชอบของคินเดิลอีกอย่างคือรุ่นนี้ตัวหนังสือชัดและเบามาก ถืออ่านเหมาะมือสุดๆ ค่ะ และด้วยความที่หน้าจอเป็น e-ink อ่านแล้วก็ไม่ปวดตาแบบที่เคยเป็นตอนอ่านในแท็บเล็ตแล้ว


     สำหรับข้อที่ไม่ค่อยชอบ ตอนนี้เห็นทีจะมีแต่เรื่องหนังสือบางเล่มที่จัดเข้า collection ไปแล้วชอบเด้งกลับไปอยู่ที่เดิมหลายรอบมาก ไม่รู้จากสาเหตุอะไร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กับเรื่องแบตที่เหมือนจะแอบหมดไวค่ะ (ซึ่งไม่รู้เป็นเพราะใช้เวลาอ่านต่อวันนานด้วยหรือเปล่าเลยทำให้แบตหมดไว) แต่เรื่องแบตอาจจะต้องดูกันไปอีกสักพัก เพราะก็เพิ่งใช้มาไม่นานเท่าไหร่ ถ้าเวลาอ่านต่อวันน้อยลงอาจจะแสตนด์บายได้นานขึ้นก็ได้



  :: MeeBook M7 ::  

     จริงๆ ตอนแรกสุดเรากะจะเอารุ่น M6 ที่หน้าจอ 6 นิ้วเท่าเครื่องคินเดิลมาแหละ แต่พอดีว่าตอนนั้นจะกดแล้วเครื่องหมดชั่วคราวพอดี กับคิดไปคิดมาแล้วเราอยากได้แบบมีปุ่มเปลี่ยนหน้าด้วย กับรู้สึกว่าการอ่านหนังสือภาษาไทย ควรจะใช้จอที่ใหญ่กว่าภาษาญี่ปุ่นสักนิดดีกว่า ก็เลยมาลงเอยที่รุ่น M7 ที่หน้าจอใหญ่ขึ้นมาอีกนิดที่ 6.8 นิ้วค่ะ



     จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เราเคยไปลองจับเครื่องอีกยี่ห้อที่เป็นสีขาว ขนาดเท่ากันมาแล้ว อันนั้นเบามาก แต่ติดที่เราไม่ชอบหน้าเมนูและความหน่วงของอีกยี่ห้อเท่าไหร่ บวกกับไม่ได้สนใจว่าต้องหน้าตาดีขนาดนั้น เลยเลือกที่สเป็กเครื่องให้แรงหน่อยเอาไว้ก่อน แล้วก็มาจบที่รุ่นนี้ค่ะ ซึ่งพอได้มาใช้งานแล้วเราค่อนข้างพอใจมากนะ

     สำหรับเครื่องนี้เราจะเน้นใช้อ่านหนังสือภาษาไทย-อังกฤษเป็นหลักเลย ด้วยความที่เป็นเครื่องแอนดรอยด์รุ่นใหม่ขึ้นแล้วทำให้ใช้บริการ google service ที่ลงมาในตัวเครื่องได้เลย ไม่ต้องไปหา apk หรือซอกแซกลง play store แบบเครื่อง E-Reader ช่วงแรกๆ 

     หนังสือภาษาไทยที่เราอ่านและซื้อเก็บ ส่วนใหญ่เป็นมังงะ แต่ก็มีพวกนิยาย epub เยอะเหมือนกัน ซึ่งการใช้เครื่องนี้ตอบโจทย์การอ่าน epub ได้ดีมาก แต่ถ้าอ่านที่เป็นไฟล์ pdf เราว่ามันค่อนข้างจะเล็กไปพอสมควร ถึงจะมีซอฟต์แวร์ช่วยตัดขอบหน้ากระดาษ แต่ยังไงที่ดีที่สุดคือการอ่านจากไฟล์ epub ค่ะ ส่วนมังงะถ้าตัวหนังสือไม่เยอะมากก็อ่านสบาย แต่ถ้าตัวหนังสือยิบๆ เยอะ เราว่าควรไปหน้าจอใหญ่กว่านี้จะดีกว่า (แต่ส่วนตัวถ้าดูจากนิสัยการอ่านของตัวเอง หน้าจอเท่านี้เราโอเคนะ อันนี้ต่างคนต่างความคิดค่ะ)

     ส่วนแอพที่เราใช้ในเครื่องนี้หลักๆ จะเป็น meb (เวอร์ชั่น e-reader), TK Read, Bookwalker, Play Books และ Kindle (แอคเคาต์หนังสือภาษาอังกฤษ) ค่ะ และระยะหลังมาเราไม่อ่านนิยายในเว็บมานานมากแล้ว ถ้าจะอ่านนิยายในเว็บ พวก ReadAWrite เว็บตูน เราว่าเครื่องนี้ไม่ตอบโจทย์นะคะ เพราะไถแบบฟีดในมือถือหรือแท็บเล็ตไม่ได้ค่ะ (แต่จะมีบางรุ่นที่ไถได้ อันนั้นต้องไปดูกันอีกทีค่ะ)

     เครื่องนี้ดีตรงที่เอาไฟล์ที่โหลดมาจากที่อื่นโยนใส่ไว้อ่านได้ เพิ่มเมมฯเก็บไฟล์ได้เยอะ ตัวหนังสือคมชัด แน่นอนว่าเครื่องจะไม่ลื่นปรู๊ดปร๊าดไวแบบแท็บเล็ต แต่สำหรับการอ่านหนังสือแล้วเราว่าขนาดนี้ก็ไม่ได้ช้าเกินไปจนน่าหงุดหงิดค่ะ แล้วเครื่องนี้เองก็เป็น e-ink เหมือนคินเดิล เพราะงั้นรับประกันความอ่านแล้วสบายตา แต่น้ำหนักก็จะหนักกว่าเครื่องคินเดิลพอสมควร ใส่เคสก็หนักมากขึ้นแต่ยังอยู่ในขั้นที่ถือมือเดียวได้สบายอยู่


      สำหรับข้อที่ไม่ค่อยชอบคือเรื่องแบต ส่วนตัวว่าแบตค่อนข้างไหล สักอาทิตย์นึงก็ต้องเสียบชาร์ตแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในขั้นที่รับได้ไม่หงุดหงิด งานประกอบปุ่มกดแอบหลวมนิดๆ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร อาจจะต้องรอดูระยะยาวกันอีกที กับอีกเรื่องคือเครื่องแอนดรอยด์ยี่ห้อนี้จะไม่มีเคสใสที่ทำออกมาโดยเฉพาะเหมือนอีกยี่ห้อหรือคินเดิล ทำให้ไม่มีตัวเลือกในการใส่เคสแบบที่ชอบค่ะ


     หลังจากใช้มาสักพัก ส่วนตัวแล้วตอนนี้ชอบเครื่องคินเดิลมากกว่า ด้วยความเล็ก เบา เลยรู้สึกอยากถือติดมืออ่านบ่อยๆ แต่ตัวเครื่อง M7 เองก็ใช้อ่านภาษาไทยจอยดีมากค่ะ แต่ด้วยน้ำหนักที่มากกว่าคินเดิลก็เลยรู้สึกว่าหยิบน้อยกว่า และที่แน่ๆ ตอนนี้เสียเงินค่าอีบุ้คสำหรับทั้งสองเครื่องเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่า T T แล้วก็ทั้งสองเครื่องนี้เป็นจอขาวดำหมดนะคะ E-Reader จริงๆ ปัจจุบันมีรุ่นที่เป็นจอสีแล้วด้วย แต่ส่วนตัวเรายังไม่ต้องการจอสีตอนนี้ ถ้าเราอยากอ่านแบบมีสีอย่างพวกนิตยสาร การ์ตูนสี เรายังใช้แท็บเล็ตอ่านเหมือนเดิมค่ะ


     หวังว่าเอนทรี่นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจเครื่อง E-Reader นะคะ ถ้ามีอะไรอยากถามเพิ่มเติมก็มาพูดคุยกันได้ค่า ขอบคุณทุกคนที่สนใจอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ด้วยค่ะ



Post a Comment

0 Comments