ถ่ายภาพฟิล์ม (เหมือนจะ) ครั้งแรก ณ บ้านบางเขน


     สวัสดีค่า วันนี้มาพร้อมกับบล็อกเกี่ยวกับการถ่ายภาพที่ไม่ได้อัพมานาน ออกตัวก่อนนะคะว่าเราเองแค่ชอบถ่ายรูปและเล่นเป็นงานอดิเรกเท่านั้นค่ะ ถ่ายตามความสนุกและความพอใจของตัวเองล้วนๆ ฝีมือไม่ค่อยมีแต่อาศัยความอยากทำ อยากเล่นอยากลองของตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ ที่มาอัพบล็อกนี่ก็เพราะอยากเก็บไว้ในที่ของตัวเองที่ไม่ใช่ในเฟซบุ้ค เพจ หรือทวิตเตอร์ด้วย (ยังไงเราก็ยังชอบการเขียนบล็อกมากกว่าการอัพเพจน่ะเนอะ)


     ถ้าหลายคนที่ตามทวิตเตอร์เราอาจจะพอรู้อยู่ว่าเรามีถ่ายรูปเล่นเป็นพักๆอยู่แล้ว มาเล่าให้ฟังกันก่อนว่า ปกติเราจะใช้กล้อง Mirrorless คู่ใจ (FUJI X-A2) ที่ซื้อตอนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นถ่ายรูป แล้วก็ใช้มาตลอดทั้งเวลาไปเที่ยว ไปอีเวนต์ เอาไปส่องศิลปินบนเวที Japan Expo ทุกปี ฮ่าๆ เรียกได้ว่าเป็นกล้องฝึกมือที่ดีมากๆของเราเลยล่ะค่ะ

     ทีนี้พอถ่ายไปสักพัก เริ่มอยากลองเปลี่ยนเลนส์อื่นๆที่ไม่ใช่เลนส์ออโต้ดูบ้าง ก็เลยเริ่มสนใจเลนส์กล้องฟิล์มที่เป็นเลนส์มือหมุน แล้วคลับคล้ายคลับคลาว่าที่บ้านเองก็มีกล้องฟิล์มตัวใหญ่ของพ่ออยู่นี่นะ พอไปถามพ่อ ปรากฏว่าคราวนี้ได้กล้องฟิล์ม SLR เก่าที่พ่อเคยใช้ตั้งแต่สมัยเรายังไม่เกิดพร้อมอุปกรณ์มาแบบครบชุดเลยค่ะ มีทั้งตัวกล้อง เลนส์ 2-3 ตัว ฟิลเตอร์ และอุปกรณ์เสริมเพียบ ซึ่งของพวกนี้พ่อเคยใช้นานมากแล้ว แต่หลังๆก็ไม่ได้หยิบอีกเป็นสิบๆปีจนกระทั่งเราไปถามนี่แหละ เค้ายกให้เราทั้งชุดเลยเพราะเค้าไม่ได้ใช้แล้ว ของทุกอย่างอยู่ในสภาพดี เราเอาไปส่งร้านล้างทำความสะอาดก็กลับมาปิ๊ง ใช้ได้ไม่มีปัญหาค่ะ

     แรกๆเราเองก็ใช้แค่เลนส์กล้องไปก่อน เอามาใส่อแด็ปเตอร์ต่อกับกล้อง mirrorless ของตัวเอง ซึ่งภาพที่ออกมาคือถูกใจตัวเองมากๆ เพราะสีสันและอะไรหลายอย่างจะนุ่มเนียนสวยต่างกับเลนส์ออโต้ที่คมกริบ ก็ฝึกหมุนอยู่พักใหญ่เลยค่ะ แล้วก็อยากลองใช้กล้องฟิล์มที่พ่อยกให้ด้วย แต่ด้วยความที่กล้องเป็นระบบกลไกล้วน (Nikon F) แบกไปไหนมาไหนหนักมากๆ ทุกอย่างต้องปรับเองทั้งหมด แล้วรู้สึกว่าตัวเองยังไม่แม่นทฤษฎีด้วย แถมเล่นฟิล์มก็ยังมีค่าใช้จ่ายพวกค่าฟิล์มและค่าล้างแสกนตามมาอีก ก็เลยดองกล้องไว้เป็นปีเลยค่ะ

     เราเคยพยายามจะเอากล้องฟิล์มออกไปถ่ายนะ แต่เอาออกไปพร้อมกล้องดิจิตอลก็หยิบแต่ดิจิตอลมาใช้ตลอดด้วยความง่ายและเคยชิน มีครั้งนึงพยายามเอาไปถ่ายฟิล์มให้หมด ก็ไม่มีปัญหา แต่มาตกม้าตายเอาตอนจะถอดฟิล์มออก เพราะลืมปลดแกนกรอฟิล์มกลับค่ะ ก็หมุนไปจนฟิล์มขาด พอเปิดฝาหลังมาปุ๊ปคือฟิล์มม้วนนั้นก็สู่ขิตไปเรียบร้อย 55555 (ไว้อาลัยให้ความงี่เง่าของตัวเองด้วย)

     เอาจริงก่อนมาลองใช้ SLR เราก็ผ่านยุคที่เคยใช้กล้องฟิล์มสมัยประถม มัธยมมาแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นกล้องดิจิตอลยังราคาสูง เวลาไปทัศนศึกษาส่วนใหญ่ก็จะใช้กล้องฟิล์มกัน ซึ่งเราเองก็เคยมีกล้องป๊อกแป๊กกับเขาอยู่ตัวนึง (ที่ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหนแล้ว) และก็เคยถ่ายฟิล์มแบบนั้นมาล่ะค่ะ พอมีกล้องดิจิตอลก็เลิกใช้ ทีนี้พอจะกลับมาเล่นฟิล์ม (ที่เป็นฟูลเฟรมราคาถูก) ก็เลยไม่อยากเล่นกล้องป๊อกแป๊กแบบที่เคยมีละ ตั้งใจไว้ว่าอยากได้กล้องแบบโปร ปรับโน่นนี่เองได้เลย และไม่ต้องใช้ถ่าน เพราะกลัวแผงวงจรเสียแล้วมันจะซ่อมยาก ซึ่งกล้องของพ่อตอบโจทย์นี้อยู่แล้ว เลยสบายไปอย่างนึงค่ะ

     แต่ด้วยความที่กล้อง SLR กลไกล้วนมันหนักและถ่ายค่อนข้างยาก เราเลยมองหากล้องตัวเล็กๆที่เป็น Half Frame กลไกล้วนเพิ่มมาอีกตัว ก็ส่องอยู่พักใหญ่จนได้ Olympus PEN EES-2 มาจากงานกล้องที่ลิโด้ ซึ่งสำหรับเรามันโอเคมากนะ เพราะเป็นกล้องแบบที่ต่างจากที่มีอยู่ ราคาและสภาพตอนได้มาถือว่าสมเหตุสมผล ไม่แรงเกิน และแอบชอบ Half Frame ที่ประหยัดฟิล์ม ใส่แล้วถ่ายได้เยอะด้วยล่ะค่ะ


     เกริ่นมาซะยาว บล็อกวันนี้จะเอาภาพจากฟิล์มม้วนแรกที่ได้จากกล้องทั้ง 2 ตัวนี้มาแปะค่ะ เราเอาฟิล์มไปเผาที่บ้านบางเขนมา เพราะอยากลองดูภาพจากกล้องทั้งสองตัวสักทีว่าจะออกมาประมาณไหน วัดแสงโอเคมั้ย หลังจากนี้จะได้กะถูกด้วยว่าจะต้องถ่ายแบบไหนด้วย (มีแผนจะเอาไปเที่ยวด้วยค่ะ)

     ตอนแรกที่ตัดสินใจออกจากบ้านคือแดดเปรี้ยงมาก แต่พอแต่งตัวออกไปแค่นั้นแหละ ไปถึงคือฟ้าร้องฟ้าครึ้มแล้ว ถ่ายได้แปปนึงฝนลง ต้องไปหาที่หลบให้ฝนหยุดก่อนแล้วค่อยออกมาถ่ายต่อจนครบ และเอาไปส่งล้างแสกนวันถัดมาที่ แล็บร้านชำ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากค่ะ ร้านดีมากๆเลย งานเร็ว งานสวย เจ้าของร้านใจดีมากค่ะ


     ว่าแล้วก็ไปชมภาพที่ได้จากกล้องทั้งสองตัวนี้กันได้เลยค่า รูปที่ลงเป็นรูปตามไฟล์ที่แสกนเลยนะคะ เราแค่เอามาย่อแล้วก็ใส่กรอบเพิ่มเข้าไปเท่านั้นค่ะ


     ก่อนอื่น มาเริ่มที่ภาพจาก SLR กันก่อน กล้องที่เราใช้คือ Nikon F ที่ได้มาจากพ่อค่ะ พร้อมเลนส์ Nikkor 50mm. F.1.4 Non-Ai ใส่ฟิล์ม Kodak Proimage 100 ที่ค้างอยู่ในกล้องมาพักใหญ่ ซึ่งถ่ายวันฝนตกได้อยู่นะคะ แต่ก็ปรับ F ปรับสปีดกันพอสมควรเหมือนกัน ตอนแรกก็กลัวๆอยู่ว่ารูปออกมาน่าจะสั่นกระจุย มืดเกิน หรือโฟกัสไม่เข้าเพียบแน่ๆเลย แต่รูปที่ได้ส่วนตัวว่าออกมาดีกว่าที่คิดค่ะ


















     ต่อมาเป็นรูปจากกล้อง Half Frame Olympus PEN EES-2 นะคะ ใส่ฟิล์ม My Heart 200 ตัวนี้เป็นกล้องแบบกะระยะ เราก็ปรับๆแล้วเดินวนกดถ่ายเลยค่ะ ซึ่งพอล้างออกมาจริงๆแล้วก็รู้สึกเลยว่า ตัวนี้ควรไปถ่ายในที่แสงเยอะๆมากกว่า เพราะภาพที่ได้ส่วนใหญ่ออกมามืดมากค่ะ แล้วยิ่งเป็นวันฝนตกด้วย ควรถ่ายกลางแจ้งที่มีแสงเพียงพอน่าจะสวยกว่า แล้วก็ภาพที่เห็นในช่องมองจะไม่ตรงกับภาพที่ได้จริงเท่าไหร่ ก็ได้รู้ว่าคราวหน้าต้องจัดองค์ประกอบเผื่อค่ะ

















     พอได้กลับมาลองถ่ายฟิล์มแล้วความรู้สึกต่างกับดิจิตอลมากพอสมควรเลยค่ะ ความสนุกและข้อดีข้อเสียของกล้องทั้งสองแบบแตกต่างกัน สำหรับเราคงบอกยากว่าตอนนี้ชอบกล้องแบบไหนมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ เราคงเล่นทั้งสองแบบต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อนั่นแหละค่ะ (ซึ่งไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน ฮาา)

     แล้วพบกันใหม่เอนทรี่หน้าค่ะ


Post a Comment

0 Comments