[Report] ทัวร์ทัศนศึกษาโรงงานช็อกโกแลตกับ koma'n


คำเตือน: เอนทรี่นี้สำหรับกรี๊ดเมน โคมะซาว่า ฮิโรโตะ (หรือโคมัง) โดยตรงนะคะ งานขาย งานสครีม งานอวย และงานติ่งมีหมดทุกสิ่งค่ะ 


     ก่อนอื่นขอแปะเพลงก่อนเนอะ สำหรับอีเวนต์นี้เป็นอีเวนต์พิเศษที่จัดขึ้นจากการซื้อซีดีซิงเกิล Kyou wo Torimodose! และเอาใบปลิวที่แถมข้างในส่งไปชิงโชคสำหรับเข้าร่วมทัวร์ครั้งนี้ค่ะ เราส่งไปทั้งหมด 4 แผ่น (สองแผ่นสั่งจากเว็บ อีกสองแผ่นซื้อที่ร้านเพราะจะเข้าอีเวนต์จับมือกับมินิไลฟ์) และเป็นหนึ่งในผู้โชคดี ได้ไปทัวร์โรงงานช็อกโกแลตที่ไม่ใช่กับคุณวิลลี่ วองก้า แต่เป็นโคมะซาว่า วอดก้า เตกิล่า กุ๊กๆแทน 555+ (ชื่อนี้ตั้งให้เอง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าตัวแต่อย่างใด)



      อีเวนต์นี้เป็นอีเวนต์ที่เจ้าตัวบอกว่าไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วนอกจากอีเวนต์ช่วงออกซิงเกิล ส่วนใหญ่โคมังจะจัดเป็น live ไปเลยค่ะ ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่จัดทัวร์ในลักษณะนี้ แถมจัดวันไวท์เดย์อีกต่างหาก แล้วก็กฎสำหรับทัวร์นี้คือห้ามถ่ายภาพที่ติดเจ้าตัวเป็นอันขาด เพราะงานนี้มีช่างภาพประจำที่จะคอยถ่ายภาพให้อยู่แล้ว (ซึ่งจะเอาภาพพวกนี้มาขายเราอีกทีหลังจากนี้)

     สำหรับวันนี้ แอบเริ่มต้นวันแบบไม่ค่อยสวยทักเท่าไหร่ เริ่มจากแต่งตัว แต่งหน้าแน่นเหมือนจะไปออกงาน เพราะงานนี้มีช่างภาพประจำถ่ายให้ เลยต้องเอาให้เป๊ะที่สุด ออกจากหอตั้งแต่ตีห้า แต่ฝนตก (พยากรณ์อากาศบอกตกสิบโมง คือคุณหลอกดาวมาก) ก็ขี่จักรยานกางร่มฝ่าฝนไปถึงสถานี แต่ด้วยความเมาดันขึ้นรถไฟผิดฝั่งค่ะ… ตั้งแต่มาอยู่นี่ เป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถไฟผิดขบวนแบบร้ายแรงที่สุดเลยนะ แต่ยังดีที่ไปถึงสถานีโตเกียวที่นัดขึ้นรถทัวร์ทันเวลาพอดีเป๊ะ คือไปถึงปุ๊ปก็เช็คชื่อขึ้นรถพอดีเลย แอบดูใบรายชื่อแล้วเป็นต่างชาติคนเดียวในทัวร์ด้วยค่ะ

     พอขึ้นรถ พักหายใจหายคอเรียบร้อยก็มองไปรอบๆคันรถ มีคนไปทัวร์ประมาณ 50 คนได้ นั่งกันไม่เต็มคันรถนะคะ แล้วเราก็ทวิตหาคนที่เคยคุยกันก่อนหน้านี้ด้วยเพราะไม่รู้ว่าคนไหน แต่เค้าตอบมาหลังจากนั่งไปพักใหญ่แล้วว่านั่งด้านหน้าก็เลยยังไม่ได้ทักทายกัน


     สำหรับจุดหมายแรกที่ไปกันคือโรงงาน Kabaya Shokuhin ในจังหวัดอิบารากิ ใช้เวลานั่งรถประมาณสองชั่วโมงครึ่งตามกำหนดการ แต่เอาจริงๆเพราะฝนตกด้วยเลยทำให้ตารางทัวร์ช้ากว่ากำหนดการค่ะ นี่ก็แอบขำตัวเองเหมือนกัน เพราะออกจากโทจิกิลงมาโตเกียว จากนั้นก็นั่งจากโตเกียวย้อนขึ้นมาทางอิบารากิอีกรอบ แลดูย้อนเส้นทางมาก

     พอรถออก คนที่คอยจัดการเรื่องทัวร์ก็อธิบายตารางทัวร์คร่าวๆ พร้อมกับแจกป้ายชื่อที่ใช้แบ่งกลุ่มสำหรับทำกิจกรรมและให้จับฉลากตำแหน่งสำหรับยืนถ่ายรูปรวมและตำแหน่งที่นั่งช่วงฟังบรรยายในโรงงาน จากนั้นก็เปิดวีดีโอของโคมังค่ะ เนื้อหาในวีดีโอคือเจ้าตัวมาทำช็อกโกแลตให้ดู แล้วก็เม้ามอยสนุกสนานกันไป ระหว่างทางมีแวะพัก 2 รอบ


     พอถึงโรงงาน เข้านั่งประจำที่เรียบร้อย เกงเกง (ผู้จัดการของรูทไฟว์) ก็โผล่มาพร้อมกับโคมัง เรานั่งติดทางเดินตรงกลางพอดี น้องก็เดินมาค่ะ เฉียดเลยค่ะ ใจเต้น 555 เพราะเจอหน้าตัวจริงครั้งล่าสุดแบบจังๆก็ตั้งแต่ตอนรีลีสอีเวนต์ แต่รอบนี้ใกล้มาก ก็ทักทายและถ่ายรูปกัน น้องดูเหนื่อยนิดนึงเพราะวันก่อนเพิ่งเล่นคอนเสิร์ตมาด้วย แต่ก็ไม่ได้ดูเหนื่อยเห็นชัดอะไรมากมายนะ คือก็เป็นโคมังปกติแบบที่เรารู้จัก จากนั้นก็ฟังบรรยายเกี่ยวกับบริษัทและกระบวนการทำช็อกโกแลต ซึ่งโคมังก็คอยยิงมุขขัดคนที่คอยบรรยายเป็นระยะๆ คนบรรยายนี่พูดเก่งมากกก เก่งจริงๆ อธิบายสนุกด้วยค่ะ ก็เฮฮากันไป

     เนื้อหาที่บรรยายจะเกี่ยวกับเรื่องของโรงงาน ที่มาของชื่อ ประวัติ และกระบวนการทำช็อกโกแลตแบบคร่าวๆพร้อมกับตัวอย่างวัตถุดิบต่างๆให้ได้ลองส่องดูกันด้วย พอบรรยายจบก็แบ่งแฟนคลับออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะออกไปเดินชมโรงงานก่อน และกลุ่มที่สอง (ที่เราอยู่) ก็จะไปประทับตราที่ระลึกและเดินมาดูวัตถุดิบที่โชว์ไว้แบบใกล้ๆ ซึ่งโคมังเองก็เดินมาดูแล้วก็คุยเรื่องช็อกโกแลตไปด้วยค่ะ

     จากนั้นก็ถึงตากลุ่มเราเดินชมโรงงาน มีการแนะนำสินค้าแพกเกจแบบต่างๆ และได้ดูไลน์การผลิตขนม Sakusaku Panda ด้วย พอกลับลงมาก็ได้ถ่ายรูปกับโคมังทีละกลุ่ม ตอนน้องเดินออกมาจากห้องมาถ่ายรูปด้วยนี่คือเฉียดแบบอีกนิดก็ชนเราแล้วอะ 555 คือตอนแรกไม่รู้สึกตัวจนเห็นเจ้าตัวเดินจ้ำเฉียดๆผ่านหลังไปนี่แหละ พอมายืนใกล้ๆแล้วคือ… น้องเตี้ยกว่าเรา… โอเคค่ะ คือแบบ ก่อนหน้านี้เวลาไปอีเวนต์อะไรงี้เราเทียบความสูงไม่ถูกเพราะต้องมองขึ้นไปบนเวที แต่พอมายืนใกล้ๆกันจริงๆคือ ชัด! เตี้ยจริงด้วย (ฮา) และตัวใหญ่กว่าที่คิดนะคะ แบบไหล่กว้างอะไรแบบนี้ ปกติเวลาเห็นอยู่ด้วยกันกับรูทไฟว์ เรารู้สึกว่าน้องตัวเล็กเพราะคนอื่นสูงกว่าน้อง แต่เอาจริงๆน้องก็ไม่ได้เล็กบอบบางขนาดนั้น


     พอถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย กลับเข้าไปในห้องบรรยายอีกรอบก็มีเล่นเกมทายปัญหานิดหน่อย ทายเสร็จคนที่ตอบถูกหมดทุกข้อก็ได้รับของที่ระลึกจากโรงงานกับมือโคมัง แล้วก็กลับไปขึ้นรถทัวร์กันค่ะ ตอนเดินออกจากประตูก็ได้รับของที่ระลึกจากโรงงานด้วย ข้างในถุงมีขนมทั้งหมด 3 ชิ้น พอทุกคนขึ้นรถมาเรียบร้อย คนจากโรงงานก็ขึ้นมาบนรถแล้วก็บอกว่า ขนมในถุงน่ะ ตัว Sakusaku Panda ซองเล็กกับขนม Jyuu C เป็นของที่ระลึกปกติที่ทางโรงงานแจกให้ ส่วน Sakusaku Panda ห่อใหญ่ในถุง อันนี้เป็นของขวัญพิเศษจากโคมังให้ทุกคน พอฟังจบกรี๊ดกันทั้งคันรถเลยค่ะ


      หลังจากนั้นก็ออกจากโรงงาน เดินทางไปยังไลฟ์เฮาส์ที่มิโตะ ซึ่งหลังจากนี้จะทานข้าวกลางวันและมีมินิไลฟ์กับอีเวนต์ ตอนทานข้าวจะแบ่งให้นั่งกันตามกลุ่มที่จัดไว้ พอเข้าไปนั่งกันเรียบร้อย น้องก็ออกมา เกงเกงบอกว่าช่วงทานข้าวเดี๋ยวโคมังจะลงไปนั่งคุยและเซ็นชื่อบนกล่องข้าวให้ทีละกลุ่มนะ ทุกคนแบบเฮ้ย เอาจริงงง คือที่นั่งกินข้างลองนึกสภาพไลฟ์เฮาส์เล็กๆที่มีเวทีกับด้านล่างโล่งๆ ปูผ้าพลาสติกสีฟ้า นั่งพื้นล้อมวงกินข้าวกันเป็นกลุ่มแบบนั้นอ่ะค่ะ


     พอเริ่มกินข้าวกัน น้องก็ถือปากกาเดินลงมาข้างล่างเลย กลุ่มเราน้องเดินมาเป็นกลุ่มที่สอง เดินลงมานั่งด้วยกันในกลุ่มเลยค่ะ ใกล้มากก ก็มีถ่ายรูปกันแล้วก็ส่งกล่องข้าวให้น้องเซ็นให้ทีละคน พอเซ็นครบก็ยังเหลือเวลานั่งคุย คือแบบเอาจริงนี่เขินมากกกกก ไม่กล้าชวนคุย แล้วจู่ๆน้องก็อ่านป้ายชื่อเรา เรียกชื่อ (เราเขียนชื่อเล่นตัวเองไปเลยไง) ประมาณว่าทำไมชื่อแปลกมั้ง เลยชิงบอกน้องไปว่า ใช่ค่ะ เราไม่ใช่คนญี่ปุ่นนะ ปรากฏว่าทุกคนในกลุ่มคือ เหหหหห กันหมดเลย แล้วน้องก็ชวนเราคุย

โคมัง : มาจากไหนหรอ?
เรา : มาจากไทยค่ะ
โคมัง : (ทำหน้างงนิดนึงแล้วก็พูดขึ้นมา) ช้าง!
เรา : (เอ๋อนิดนึง โซ โซอะไร อ๋ออออ ช้าง!) ใช่ๆๆ
โคมัง : อยากไปไทย อยากลองขี่ช้าง อยากเจอช้าง (เราจำบทสนทนาแถวๆนี้เป๊ะๆไม่ได้นะ คือตื่นเต้นมากกก พูดผิดพูดถูกอะไรก็ไม่รู้)
เรา : มาให้ได้นะๆ
โคมัง : มีที่ไหนเจอช้างได้บ้าง?
เรา : ที่จังหวัดอยุธยาเลยค่ะ
โคมัง : (พูดทวน) อยุธยา
เรา : ใช่ๆๆ ที่นั่นขี่ช้างได้ด้วย มาให้ได้นะ
โคมัง : แล้วตอนนี้อยู่ที่นี่หรอ?
เรา :ตอนนี้มาเรียนอยู่ค่ะ

     คร่าวๆประมาณนี้ แต่แบบ โอ้ยยยยย ตื่นเต้นมากกกกก น้องชวนคุยนี่ในหัวขาวโพลน 555 จังหวะนั้นนึกอะไรไม่ออกเลยว่าจะพูดอะไรดี พูดผิดพูดถูกมาก แล้วหลังจากนั้นก็หมดเวลา น้องก็เปลี่ยนไปกลุ่มข้างๆ เดินผ่านหลังเราไปนั่งกับอีกกลุ่ม ซึ่งก็นั่งใกล้ๆเราอีกค่ะ ห่างแบบเอื้อมมือไปตบหัวได้อะ ฮืออออออ จากนั้นก็นั่งกินข้าวต่อแล้วก็คุยกับคนในกลุ่มตัวเองไป กลุ่มเรานี่คนอายุพอๆกันทั้งนั้นเลย แต่มีน้องคนนึงอายุ 17 มาจากโอซาก้า นั่งไนท์บัสมาเพื่อการนี้ แล้วก็คืนนั้นก็จะนั่งไนท์บัสกลับ น้องทุ่มมากค่า


     พอทานข้าวเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาสำหรับมินิไลฟ์ น้องเล่นแค่ 3 เพลงคือ Say  My Love, Koushi tan tan (absinthe ver.) (ร้องผิดด้วยค่าาาาา ว๊ายยยยยยย) และปิดด้วย Kyou wo Torimodose! ก็นั่งดูกันไปเงียบๆ น้องบอกว่านี่เงียบกันจัง มินนะโอโทนาชี่ อะไรประมาณนี้ คือนี่จะกรี๊ดก็ไม่ใช่แนว และอีกอย่าง มันใกล้มากกกกกก แค่เห็นหน้าฟังเพลงคือฟินสุดแล้วค่ะ แล้วเราว่าทุกคนก็เขินด้วยแหละ คือจากที่คุยๆมา ทุกคนบอกตรงกันว่านี่เซอร์วิสมากเลยนะ ไม่คิดว่าจะทำให้ขนาดนี้ด้วยซ้ำ เกงเกงก็บอกประมาณว่า ก็ทุกคนเค้าคิดว่า โคมังจะทำอะไรก็โอเคไปหมดไง โคมังก็แอบบ่นๆว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนตอบทวิตตัวเอง เกงเกงก็บอก ก็บอกแล้ว ทุกคนเค้าว่าโคมังจะทำอะไรก็โอเคไง

     พอจบไลฟ์ก็เป็นช่วงเล่นเกม นั่งกันตามกลุ่ม เกมที่เล่นมีทั้งหมดสองเกม โดยเกมแรกเป็นเกม “แข่งยืดนัตโต” ให้ทุกคนในกลุ่มช่วยกันกวนนัตโตและยืดให้ได้ยาวที่สุด กลุ่มที่ชนะโคมังจะป้อนนัตโตให้หนึ่งคำ คือนัตโตเนี่ย คนเกลียดก็เกลียดน่ะค่ะ (นึกภาพปลาร้าบ้านเราที่มีคนทั้งกินได้และกินไม่ได้) แต่เป็นของชอบโคมัง ส่วนคนเกลียดก็อย่างเกงเกง รายนี้เกลียดนัตโตเหมือนกัน เล่นเกมไปก็คอยปลอบคนที่เกลียดนัตโตด้วยกันว่า โบคุโนะโทโมดาจิ เพื่อนผมมมมม อะไรงี้ 555

     แล้วเกมมันพีคมาก เล่นกันไปคนยืดนี่แบบ มีนัตโตตกใส่เสื้อมั่ง แล้วเล่นๆไปนี่ยางนัตโตมันก็ยืดๆ ก็ติดเสื้อผ้าติดอะไรกันไป ส่วนตัวเราไม่มีปัญหากับนัตโตนะ กินได้และกินประจำ แต่กลิ่นมันนี่แบบ ฮือออออ กลิ่นมันแรงและเหม็น ส่วนคนวัดความยาวก็โคมังค่ะ น้องถือสายวัดรอ หลังๆนี่ด้วยความที่สูงไม่ถึง น้องปีนเก้าอี้รอวัดความยาวเลย พอเล่นจบ ทีมชนะนี่มีคนนึงเกลียดนัตโตด้วย ป้อนแล้วคือแทบจะอ้วกกันกลางเวที คือแบบ สงสารอะ คือนี่รางวัลหรือเกมลงโทษ 555

     จากนั้นเกมที่สอง ปิดตาทายนัตโต โดยมีนัตโตทั้งหมด 5 ชนิด ให้โคมัง เกงเกง และนิชิโนะซัง (คนเดียวกับที่จัดการเรื่องงานเดี่ยวของโปโกตะ) เป็นคนปิดตาชิมนัตโตที่แฟนคลับเลือก จากนั้นก็ให้แฟนคลับทายว่าในสามคนนี้ คนไหนจะเลือกถูกว่ากินนัตโตอันไหนไป กลุ่มที่ทายถูกจะได้โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นโคมัง เกงเกงนี่ปากบ่นนะ แต่กินแล้วก็ชิมไป บ่นไป ตอนชิมนัตโตแต่ละอันว่าอันไหนที่กินไปตอนปิดตานี่โคมังก็กินไปหัวเราะไป บอกไม่รู้ว่าอันไหนอะ มันเหมือนๆกันไปหมดเลย (ไม่ใส่ทาเระและคาราชิ เป็นนัตโตเปล่าๆ) สรุปคนทายถูกมีแค่นิชิโนะซังคนเดียว และแฟนคลับก็ทายถูกกลุ่มเดียวเหมือนกัน แทบทุกกลุ่มนี่ฝากความหวังไว้กับโคมังมาก สรุปทายผิดก็อดกันไปค่ะ

     สุดท้ายก็ส่งท้ายกันว่า อย่าลืมส่งความประทับใจหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับทัวร์รอบนี้มาทางแอคพาสเพ็นด้วยนะ หรือจะเสนอตอนนี้ก็ได้ ตรงกลุ่มเราที่เม้าๆกันก็เสนอไปว่า อยากให้มีอีเวนต์ 20+ ไปดื่มเหล้ากับโคมังด้วย และเซอร์ไพรซ์พิเศษก่อนจากกัน… ได้ทูช็อตกับโคมังค่ะ!!! นี่หันหน้าคุยกันแบบ เฮ้ยยยย เอาจริงงง ไม่คิดว่าจะจัดให้ขนาดนี้ คือให้ช่างภาพประจำถ่ายให้ก่อน และจะถ่ายด้วยมือถือเราให้อีกช็อตนึง คือแบบ ตื่นเต้นมากกกก ตื่นเต้นสุดๆ ก็นั่งคุย นั่งคิดท่ากรี๊ดกร้าดกับเพื่อนๆแถวนั้นกันสนุกสนานมาก

     พอถึงตาเราขึ้นไปถ่าย น้องทักเราว่า อ๊ะ คนที่มาจากไทย ขอบคุณมาก นี่ก็ยิ่งตื่นเต้นว่า เฮ้ย น้องจำได้แล้วอะ ดีใจมากกกก จุดนั้นตื่นเต้นสุดๆ ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง มีสติแค่ตอนบอกน้องว่า ขอท่าหัวใจ น้องก็จัดให้ค่ะ มือชนกันค่ะ พี่นี่แทบจะลงไปนอนตายค่ะ ฮืออออออออออออ ไม่คิดว่าจะเซอร์วิสให้อะไรเบอร์นี้ พอถ่ายเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นรถ เดินทางกลับโตเกียวกัน หลังจากนั้นเราก็แลกทวิตเตอร์กับคนอื่นๆที่คุยด้วยในงานแล้วก็แยกย้าย


     สำหรับความประทับใจ สรุปให้คำเดียวว่า ฟินนนนนนนนนนนนนน มากกกกกกกกกกกกกกกก คือเซอร์วิสที่ทำให้มันเกินความคาดหวังตอนแรกของเราไปมาก งานนี้เป็นบัสทัวร์งานแรกที่เราเคยไปและเป็นทัวร์ที่สนุกสุดๆ ตัวโคมังเองก็เป็นกันเองและดูใส่ใจกับแฟนคลับ ดูแลได้ทั่วถึงมาก ที่เราชอบอีกอย่างคือการแบ่งกลุ่มแฟนคลับ ทำให้เรามีโอกาสได้คุยกับคนอื่นๆด้วย คือถ้าไปอีเวนต์ทั่วไป โอกาสที่จะชวนคุยกันแบบนี้มันน้อย แถมเราเป็นพวกชวนคนแปลกหน้าคุยไม่เก่ง พอแบ่งกลุ่ม กินข้าว ทำกิจกรรมด้วยกัน ก็เลยได้เพื่อนคนญี่ปุ่นเพิ่มมา ยังคุยกันอยู่ว่าไว้เจอกันตอนคอนเสิร์ตกับอีเวนต์รอบหน้านะ คือดีใจมากที่ได้เพื่อนเพิ่ม ระหว่างทางกลับหอนี่ก็พิมพ์ทวิตคุยกัน รู้สึกตัวอีกทีคือกลับถึงสถานีแล้ว

     อีกเรื่องคือระเบียบ สังเกตได้ว่าอีเวนต์มันใกล้ชิดมากๆๆ ใกล้สุดๆ แต่ไม่มีใครฉวยโอกาสหรืออะไรเลยทั้งที่มีโอกาสมากมายที่จะทำ เรามองว่ามันดีมากนะ พอไม่มีใครแหกกฎ สตาฟฟ์กับศิลปินก็วางใจว่าสามารถปล่อยให้เข้าไปอยู่ในดงแฟนคลับได้ เซอร์วิสให้ได้เต็มที่แบบไม่ต้องมีอะไรกั้น และพิจารณาจัดอีเวนต์งานต่อๆไปได้ง่ายด้วย (แต่คิดอีกที นี่แหละญี่ปุ่น) จบงานเราก็ทวิตไปหาพาสเพ็น ทวิตไปหาโคมัง ขอบคุณสำหรับงานนี้ด้วย

     งานนี้เรียกได้ว่าเป็นงานที่ประทับใจที่สุดเท่าที่เคยไปมาเลย ยังรู้สึกขอบคุณทั้งสตาฟฟ์และศิลปินมากที่คิดจัดงานนี้ขึ้น ได้ความรู้ด้วย ได้เพื่อนด้วย และฟินด้วย อีกอย่างคือดีใจมากที่พยายามกับภาษาญี่ปุ่นจนได้มาอยู่ที่นี่ ได้กำไรชีวิตขนาดนี้ ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นๆแค่ปีเดียวก็ตาม ถ้าอยู่ไทยโอกาสแบบนี้คงแทบไม่มีแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นความทรงจำที่ดีมากๆอีกงานหนึ่งในญี่ปุ่นเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสเราต้องไปอีกแน่นอน

Post a Comment

0 Comments