บันทึกการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของกะเหรี่ยงสาวชาวไทยผู้หลงใหลญี่ปุ่น กับทริปลุยเดี่ยวเปรี้ยวสุดๆ ณ ประเทศในฝัน
วันที่ 18 พฤษภาคม 2013…
ที่นั่งบนเครื่องบินก็สบายดี แต่ด้วยความที่นั่งชั้นประหยัด มันก็เลยไม่ค่อยจะมีที่ให้ยืดขาเท่าไหร่ ค่อนข้างเมื่อยใช้ได้ นั่งหลับๆตื่นๆมาตลอดทาง ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะมางีบเอาแรงบนเครื่อง ก็เลยได้แต่นั่งเสียบหูฟัง ฟังเพลงไปเรื่อยๆ พอสักตีสี่ ฟ้าข้างนอกเริ่มสว่าง ใกล้ญี่ปุ่นเข้าไปทุกที เราก็เลยได้เห็นวิวสวยๆแบบนี้ ปกติเป็นคนชอบสีฟ้าอยู่แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นแล้วท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้มๆเหนือมหาสมุทรแบบนี้ถึงกับละสายตาจากหน้าต่างไม่ได้เลยทีเดียว
อาหารว่างและอาหารเช้าบนเครื่องบินอร่อยอย่างที่หลายๆคนบอกจริงๆนั่นแหละ ด้วยความที่เรานั่งติดกับคนญี่ปุ่น พวกพนักงานต้อนรับเลยพูดอังกฤษใส่เราตลอด (พี่คะ หนูคนไทยค่ะ) เกือบไม่ได้ใบตม.แน่ะ พอทานข้าวเสร็จ สักพักกัปตันก็ประกาศว่าเรากำลังจะถึงนาริตะแล้ว พอมองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่เราได้เห็นคือฟูจิ! ภูเขาไฟฟูจิเด่นเป็นสง่าอยู่นอกเครื่องบิน และมีเมฆล้อมรอบ วินาทีนั้นรู้สึกตื้นตันมากว่า เรามาถึงแล้วนะ เรามาถึงประเทศที่เราใฝ่ฝันจะมามานานแล้วนะ พร้อมกับหมายมั่นปั้นมือไว้ และกระซิบบอกฟูจิว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปหานะ
พอเครื่องลง เราก็เตรียมใส่เสื้อหนาว เพราะตอนอยู่บนเครื่องกัปตันบอกว่า อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 14 องศา ในใจคิดว่าหนาวแน่ๆ เสื้อตัวเดียวที่เอามาจะเอาอยู่ไหม แต่พอเดินลงไปจริงๆมันก็ไม่ได้หนาวอะไรขนาดนั้น อากาศเย็นๆกำลังสบาย เดินผ่านตม.ไปโหลดประเป๋า พอถึงตรงศุลกากร (หนุ่มแว่นด้วยจ้า) เค้าก็ถามเราว่าจะอยู่กี่วัน วินาทีนั้นนึกอังกฤษไม่ออก นิ่งไปนิดนึง ก่อนจะตอบไปเป็นญี่ปุ่นว่า 8 วัน แต่หลังจากนั้นเค้าก็ถามเป็นอังกฤษตลอด ประมาณว่ามาคนเดียวใช่ไหม มาทำอะไร เพราะของเรานี่มีกระเป๋าเดินทางใบนึง เป้สองใบ ภาษาอังกฤษที่ขึ้นสนิมมานานก็เลยได้ขุดมาใช้โดยอัตโนมัติและผ่านมาแบบไม่มีปัญหาอะไร
ตอนแรกสุดเคยได้ยินมาว่าพอมาถึงแล้วอย่าพูดญี่ปุ่นกับตม. เพราะเค้าอาจคิดว่าเรามาแบบมีจุดประสงค์แอบแฝง ตอนแรกที่หลุดไปนี่ยังคิดในใจว่าซวยละ แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่มีปัญหาอะไรแบบนั้นเลย และเริ่มรู้สึกว่า จริงๆมาเที่ยวคนเดียวมันก็ไม่ได้ยากลำบากอย่างที่หลายๆคนคิดนะ สบายด้วยซ้ำที่ไม่ต้องมารอใครต่อใคร
พอออกมาแล้วก็เริ่มหลงทางในสนามบินทันที มองป้ายแบบงงๆว่า จากนี้ไปเราต้องไปไหน ต้องทำอะไรยังไงต่อ อย่างแรกที่ต้องการคือ ตั๋ว Tokyo Metro 2-day pass, SUICA และ Keisei Line ก็เดินไปถาม Information ที่สนามบินเลย ตอนแรกที่พุดก็ตื่นเต้นหน่อยๆว่าจะรู้เรื่องไหม พอพูดปุ๊ป ทางนั้นเข้าใจเราทันทีและบอกให้ว่าอยู่ที่ไหนบ้าง เราก็ย้ำแล้วไปตามนั้น และตอนซื้อตั๋วก็แบบนี้ตลอด พนักงานที่สนามบินก็ถามเราเป็นญี่ปุ่นทุกอย่าง ก็เลยเริ่มมั่นใจกับภาษาญี่ปุ่นตัวเองขึ้นมานิดนึง
ก่อนหน้านี้ที่คุยกับคนที่บริษัท เราบอกไปว่า พอถึงเวลาจริงแล้วแอบกลัวอยู่เหมือนกันนะว่าภาษาญี่ปุ่นเราจะสื่อสารไม่ได้ แต่ทุกคนบอกว่า ไม่ต้องห่วง เข้าใจอยู่แล้วล่ะ แล้วยิ่งพูดญี่ปุ่นกับเค้าเนี่ย คนญี่ปุ่นจะยิ่งรู้สึกว่าโอเค มันปลอดภัย เป็นกันเองมากกว่าภาษาอังกฤษ ที่ถึงหลายๆคนจะพูดได้ แต่ก็ลำบากใจที่จะพูด และอีกอย่าง เท่าที่สังเกตคือ ถึงถามเป็นอังกฤษไปก็ตอบกลับมาเป็นญี่ปุ่นอยู่ดี (อ้าว)
หลังจากจัดการกับตั๋วทุกอย่างเรียบร้อย เราก็นั่งรถเข้าโตเกียว ความตื่นเต้นเป็น 0 แล้วตอนนี้ ที่พักเราอยู่ที่ Asakusa เพราะงั้นก็เลยนั่งรถตรงไปถึงสถานี Asakusa ได้เลย พอไปถึง เราก็เดินเข้าหาป้อมตำรวจทันทีเพื่อถามทางไปโรงแรม เนื่องจากจดมาแล้วก็จริงแต่งงหลงทิศสุดๆ พอไปถึงโรงแรมก็จัดการเช็คอิน เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย เราไปพักแบบ Hostel นอนห้องรวมที่ Asakusa Smile จากห้องนอนมองเห็นโตเกียวสกายทรีด้วย จากนั้นก็ได้เวลามุ่งหน้าไปซื้อ Fuji-Hakone pass ที่โอดะคิว
พรุ่งนี้เรามีแพลนจะไปหาฟูจิ วันนี้ก็เลยต้องมาซื้อ Pass ก่อน Fuji-Hakone Pass เป็นพาสพิเศษเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น โดยจะใช้ครอบคลุมการเดินทางใน Hakone ทั้งหมดรวมไปถึง Kawaguchiko บางส่วน และมีส่วนลดสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลาย มีอายุ 3 วัน เรานั่ง Tokyo Metro มาลงที่ชินจุกุและเข้าไปซื้อพาสที่ Odakyu Sightseeing Service Center โดยจองบัสไปที่ Kawaguchiko ก่อน และขากลับจะนั่งรถไฟย้อนกลับทาง Hakone พนักงานพูดอังกฤษเก่งมาก เราไปซื้อแล้วคือต้องพยายามนึกศัพท์อังกฤษคุยกับเค้าซะอย่างนั้นเลย จองบัสได้เที่ยวแรกสุดตอน 6.10 ของวันที่ 19 ก็แอบเสียวๆเหมือนกันว่าจะมาทันขึ้นรถไหม ยังดีที่รถไฟมีเที่ยวแรกตอนตี 5 เดินทางมาชินจุกุประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เลยพอวางใจได้ว่าพรุ่งนี้ยังมีเวลาหลงชินจุกุได้อีกนิดหน่อย
พอซื้อพาสเรียบร้อย ได้แผนที่นัดแนะจุดขึ้นรถมาแล้ว ต่อไปคือภารกิจใหญ่ประจำวันแรกของเรา นั่นคือการไปดูคอนเสิร์ต AAA ที่โอมิยะ ซึ่งเรายังไม่ได้ตั๋วคอนเสิร์ตเลยด้วยซ้ำ เนื่องด้วยรอบการแสดงวันนี้นั้นฮอลล์จุคนได้น้อย ตั๋วมีน้อย และที่มาปล่อยในออคราคาแพงจนเราสู้ไม่ไหว เลยกะไปตายเอาดาบหน้าก่อน ซึ่งจากตรงนี้ไปเราจะต้องออกนอกโตเกียวไปไซตามะ ต้องใช้สาย JR เราก็เดินวนหลงหาสถานีสนุกสนานมาก คือการหลงในชินจุกุนี่ทุกคนพูดกันว่าปกติ เนื่องด้วยสถานีมันใหญ่มาก ถ้าไปแล้วไม่หลงนี่แปลกนะ
วันนี้เป็นวันเสาร์ ระหว่างที่หลงทางก็ได้เห็นอะไรแบบนี้มากมาย มีทั้งรับบริจาคบ้าง เล่นดนตรีบ้าง ถือเป็นสีสันริมถนนที่น่าสนใจ แต่เราเองไม่มีเวลาที่จะเดินดูให้นานกว่านี้เพราะใจลอยไปอยู่ที่ของหน้าคอนและดีวีดีลายเซ็นที่อยากได้แล้ว ก็เลยหาทางเข้าสถานีอีกรอบแล้วไปเดินถามทางนายสถานีข้างล่างเอา เรียกได้ว่าวันนี้เอะอะก็เดินถามเอาตลอด รู้ตัวจริงๆจังๆละว่าเป็นพวกอ่านแผนที่ไม่ค่อยออก โง่มาก แต่อย่างน้อยก็มีปากเอาไว้ถามทาง ซึ่งมีประโยชน์จริงๆเพราะหลายๆอย่างแผนที่บอกเราไม่ได้หมด และคนญี่ปุ่นใจดีจริงๆ ถามอะไรไปทุกคนจะพยายามช่วยเต็มที่จนเรารู้สึกประทับใจ
สุดท้ายก็มาถึงสถานีโอมิยะจนได้ โดยขึ้น JR Saikyou Line จากชินจุกุ เดินออกมาแล้วก็รู้สึกว่าไม่ต่างกับโตเกียวเท่าไหร่เลย มองไปทางไหนก็มีแต่ตึกสูงๆกับห้าง คงเป็นเพราะเป็นเมืองธุรกิจใกล้โตเกียวด้วยมั้ง (อันนี้เดาเอา) เราเดินไปถามป้อมตำรวจว่าจะไป Omiya Sonic City อีกรอบ จากนั้นก็เดินตามทางไป และไปเจอกลุ่มคนที่กำลังจะไปคอนเสิร์ตเหมือนกัน ก็เลยเดินตามเค้ามาจนถึงหน้าฮอลล์และวิ่งเข้าไปต่อคิวซื้อของหน้าคอนทันที
แถวยาวมากๆ ต่อคิวซื้อของกันอยู่เป็นชั่วโมงได้ อากาศเย็นสบายกำลังพอดี แต่คนญี่ปุ่นแถวๆนั้นทุกคนพากันบ่นร้อน (อุณหภูมิน่าจะประมาณ 20-25 องศา) คือเราที่เป็นกะเหรี่ยงเมืองร้อนรู้สึกสบาย แต่ชาวบ้านเค้าร้อนมากกัน ตอนยืนต่อคิวเลยไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แค่แอบเมื่อยขานิดนึง ที่แถวมีใบแคตาล็อกแจกให้ดูสินค้าที่มีขาย พอเดินๆเข้าไปก็มีตู้โชว์และหุ่นโชว์ของหน้าคอน มีกล่องรับของขวัญ รับสมัครเมมเบอร์ และโต๊ะขายซีดีแยก ของหน้าคอนได้ที่ต้องการมาครบ แต่หลายๆอย่างที่เป็นของสุ่มเช่น แพนด้า สร้อยแถม กาจาปอง อันนี้ต้องไปหาแลกที่ต้องการกันเอาเอง ซึ่งของสุ่มแบบนี้แล้วแต่ดวงว่าจะได้สีอะไรมาบ้าง
จะเรียกว่าโชคดีได้หรือเปล่าที่เราได้สีส้มของนิชชี่มาเยอะ ก็เลยแลกได้ง่ายมากเพราะคนชอบนิชชี่เยอะมาก แต่ด้วยความที่เราไม่มีดวงกับเมน จับกี่ๆอันๆไม่เคยได้เมน ดีวีดีลายเซ็นก็ของหมด ไม่ได้ซื้อ (แต่สั่งของไว้แล้วเลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่) ก็เลยต้องไปขอแลกของกัน ส่วนใหญ่จะใช้วิธีถือของที่ตัวเองต้องการแลกไว้แล้วเดินไปรอบๆ ใครที่ต้องการจะแลกก็จะเดินเข้าไปถามว่า แลกตัวนี้กับสีนี้ได้ไหม ประมาณนี้ ช่วงที่เดินแลกของกันเราก็มีเอาของฝากจากไทยไปให้เค้าด้วยบางส่วน
จริงๆแล้วเราเอาของขวัญไปให้เมนด้วย เป็นเสื้อกล้ามกระทิงแดงกับกางเกงมวยไทย (คือเมนเกรียนเราต้องเกรียนกว่า) และเขียนการ์ดไปให้ บอกว่าสัญญากับตัวเองไว้ว่าถ้าได้ดูคอน เราจะเอาของขวัญให้เมน ซึ่งพอถึงเวลาจริงๆแล้ว หาตั๋วไม่ได้ซะที เริ่มถอดใจ ก็เลยเอาถุงของขวัญไปวางไว้ให้เลย เริ่มคิดว่าถึงไม่ได้ได้ดูก็ต้องให้มันอยู่ดีสินะ…
สักพักนึงก็มีมาสคอตของวง เอ้แพนด้า ออกมาเดินโชว์ตัวดุ๊กดิ๊กเกรียนๆให้แฟนๆได้ถ่ายรูปกัน ซึ่งแฟนๆของ AAA เท่าที่ดูแล้ว เด็กม.ต้นและม.ปลายเยอะมาก แฟนผู้ชาย(และหน้าตาดี)ก็มีไม่น้อย บางคนมาพร้อมกันกับปฟนก็มี ด้วยความที่วงนี้เมมเบอร์มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่อัตราส่วนแฟนๆจะคละๆกันไป
พอเดินแลกของเสร็จแล้ว เดินหาตั๋วคอนแล้ว (ซึ่งไม่มีใครขายเลย) เราก็เลยไปหาอะไรกินจากร้านสะดวกซื้อแถวนั้น คือตั้งแต่ลงจากเครื่องมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงสามโมงเย็น แวะเข้าเซเว่นได้ข้าวปั้นมาก้อนนึงกับชาอีกขวดนึง แล้วซื้อคู่แบบมีส่วนลดด้วย จากนั้นก็ไปหาที่นั่งกินดูบรรยากาศหน้าคอน แถวๆนี้เหมือนพวกวัยรุ่นจะมารวมตัวทำกิจกรรมกันค่อนข้างเยอะเหมือนกันในความคิดเรา อารมณ์ประมาณสนามกีฬาแถวบ้านเราเลย
สักพักนึงก่อนคอนเริ่มประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็เจอหนุ่มคนนี้… ตอนแรกเดินผ่านก็ว่าอิเคเมนดีนะ แอบคล้ายเมนนิดๆ สักพักนึงฮีก็ลุกขึ้นมาเต้น มีไมค์เครื่องขยายเสียงพร้อมสรรพ บอกว่าตัวเองตระเวณแสดงสตรีทไลฟ์ทั่วประเทศ เพื่อจะได้เดบิวต์ มีอัดคลิปลงยูทูป ในนิโกะนิโกะ มีบล็อกมีโน่นมีนี่บลาๆๆ เต็มไปหมด เต้นเสร็จก็เดินแจกรูปตัวเอง แจกใบปลิวโปรโมตตัวเองสุดๆ พอคนแยกย้ายเราเลยเดินเข้าไปคุยแล้วก็ขอถ่ายรูปมา
ได้ความว่าชื่อ Shinyaccho เป็นคนคันไซ (บ้านเดียวกับเมนนี่เอง มิน่า…) เป็นหนุ่ม D-BOYZ ชอบจอนนี่ วันนี้เค้าไม่มีตั๋วเลยไม่ได้เข้าฮอลล์ มีเต้นเพลง AAA แล้วก็เพลงจอนนี่ พอขอถ่ายรูปก็แบบ เล่นเฟซบุ้คไหม เล่นทวิตไหม อย่าลืมโปรโมตเค้าให้เพื่อนๆรู้จักนะ (ฮา) ใครสนใจพ่อหนุ่มคนนี้ตามไปดูในบล็อกเค้าได้นะคะ มีให้ติดต่อทุกช่องทาง 5555 >>> http://ameblo.jp/zms/ หรือทวิตเตอร์ https://twitter.com/shinya_yuunari
หลังจากคุยกับหนุ่มคันไซแล้ว เราก็ไปยืนรอดูคนเข้าฮอลล์ที่หน้าคอน กะว่าถ้าเริ่มแสดงแล้วสักพักค่อยกลับโตเกียว คือถอดใจเรื่องตั๋วไปแล้ว สักพักมีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาแล้วบอกว่า จะเข้าไปดูไหม เค้ามีตั๋ว เราหูผึ่งเลย ถามไปว่าที่นั่งตรงไหน เค้าบอกชั้นสอง แถวกลางๆ ที่นั่งกลางๆ เค้าถามเราว่าให้ได้เท่าไหร่ เราบอกไปว่า 1 หมื่น เค้าก็ขอเพิ่มอีกนิด หมื่นสามได้ไหม เราก็คิดนิดนึงแล้วก็โอเค เค้าบอกรอแปป คือเริ่มมีความหวังแล้วว่าจะได้ดู งบสำหรับค่าตั๋วหน้าคอนเรามีให้หมื่นห้า เราก็ทำเฉยๆไว้ก่อน เค้าไปเดินถามคนที่ถือป้ายขอตั๋วอีกหลายๆคน แต่ดูไม่มีใครเอา แล้วเค้าก็วนมาหาเราอีกสองสามรอบ บอกรอแปป สุดท้ายขอหมื่นห้า ใกล้เวลาคอนเริ่มเต็มที เราก็ ก็ได้นะ แล้วก็แอบไปจ่ายเงินหลังห้องน้ำ
พอได้ตั๋วแค่นั้นแหละค่ะ ใส่เกียร์สุนัขวิ่งเข้าฮอลล์ทันที เพราะคอนกำลังจะเริ่มแบบอีกนาทีสองนาทีข้างหน้านี้แล้ว ไม่ได้ดูวงเปิดด้วย วางกระเป๋าเสร็จ หยิบแท่งไฟกับผ้าที่เป็นของหน้าคอนที่ซื้อมามาใส่ทันที แล้วคอนก็เริ่ม…
สมกับที่ดิ้นรนเพื่อให้ได้เข้ามาดูจริงๆ AAA ร้องสดเจ๋งมาก เต้นสุดๆไปเลย สำหรับที่นั่งถึงจะอยู่ชั้นสอง แต่ด้วยความที่ฮอลล์เล็ก เราก็เลยมองเห็นเมมเบอร์ทุกคนชัดอยู่ แล้วเมนหล่อมากกกกกกกก สารภาพเลยว่าทั้งคอน มองอาตาเอะคนเดียว 90% นิชชี่ตัวจริงก็หล่อจริงๆ คุณภาพร้องสดสุดยอด ขนาดเมนที่ว่าร้องเพลงง่อยๆยังเพราะเลยจ้า ส่วนเรื่องเต้นนี่ เมนเต้นขี้เกียจจริง อันนี้คอนเฟิร์ม มันก้าวฉับๆ เปลี่ยนบล็อก เต้นขี้เกียจตามสไตล์มัน (แต่หล่อ ให้อภัยทุกสิ่ง ณ วินาทีนั้น) นึกขอบคุณที่พยายามบนมาทุกอย่างแล้วมันได้ผล มีอย่างที่ไหน บนแล้วต้องเอาของแก้บนไปถวายเมนก่อนด้วยถึงจะได้ตั๋ว วู้ว~
แล้วคอนนี้เพลงใหม่ที่น่าจะอยู่ในอัลบั้มใหม่ก็เยอะมาก เพลงคู่ลุงกับชิน โซโล่ชูวตี้ เพลงคู่ชี่เจ๊ คู่เจ๊จี้ ฟินทุกอัน พวก MC / VTR ก็ฮา มีการเล่น LINE ด้วย แล้วก็มีให้แก้สมการโดยเอาชื่อของทุกคนมาตั้งแล้วให้แก้ออกมาเป็นผลลัพธ์เป็นตัวเลข ของชูวตี้มีเต้นก่อนเพลงโซโล่ ช่วงเต้นๆไปนี่ก็มีโมเม้นต์ชี่ชิน คือชี่มันเต้น Get Chu แล้วกระโดดถอยหลังไกล เกือบไปชนชินยิ้มหวานกันเลยทีเดียว แล้ว MC เนี่ย พวกนี้มันพูดมากกกกกก และเมนซึ่งเป็นน้องเล็ก ขี้เก๊ก เงียบขรึม(?) ก็โดนลุงๆป้าๆผู้อาวุโสแซวจิกกัดซะไม่เหลือชิ้นดีทุกช่วง ด้วยความที่พูดมาก พูดยาว พูดเยอะ พูดหลายเรื่อง เราเองก็ไม่สามารถจำได้หมดว่าเม้าท์อะไรกันไปบ้าง มีออกมาเล็กๆน้อยๆประมาณนี้
MC ช่วงแรก
- คุยๆว่ารอบนี้เป็นรอบแรกที่กลับมาเล่นฝั่งคันโต บอกกว่ากลับมาแล้ว แต่จี้กะอาตาเอะบ้านอยู่คันไซ เลยง๊องแง๊งๆกันนิดนึง
- คุยเรื่องทรงผมของผู้ชายแต่ละคน
- สมาชิกบ่นๆกันว่าวันนี้อากาศร้อนมาก เต้นไปเหงื่อออกไป
- เจ๊เลยแซวว่าช่วงร้องเพลงคู่กะจี้ ตอนที่ทำท่าหันหน้าเข้าหากัน เหงื่อจี้กระเด็นมาโดนเลย
- อาตาเอะโดนเล่นหนักสุด มิตและพี่ๆร่วมกันเผาว่าอิตานี่นะ ช่วงนี้พูดมากกกกกก เวลาถ่ายพีวี เล่นกล้อง อะไรเงี้ย เมื่อก่อนแกไม่ใช่แบบนี้นะ
- คุยไปคุยมาลุงขอไปดื่มน้ำ บอกขอน้ำเย็น (o-hiya) แล้วเดินเข้าไปหลังเวที มิตพูดไล่หลังว่าไปร้านเหล้า (izakaya)
- พออาตาเอะโดนแซวหนักๆเข้า ขอหนีไปดื่มชา โดนแซวต่อว่าชาร้อนเหมือนเดิมล่ะสิ ร้อนๆอย่างนี้ยังจะดื่มของร้อนๆอีกเรอะ
- ลุงเห็นคนใส่ชุดนักเรียนมาดูเลยถามว่ามีอะไร บอกว่ามีสอบกลางภาคกัน แล้วคนแก่ๆบนเวทีก็ระลึกความหลัง อยากกลับไปสอบบ้าง
- นิชชี่เล่นเสียงการ์ตูนใหญ่เลย พูดเรื่องสอบก็แกล้งทำเป็นเด็กว่า ของแบบนั้นอ่ะ (มัวแต่เล่นสนุก) จนลืมไปละว่าถึงช่วงสอบแล้ว
MC ช่วงอังกอร์
- ออกมาแล้วก็นั่งกัน อาตาเอะถามคนดูว่านั่งแบบนี้มันน่ารัก ใส่ชุดแบบนี้ (ขาสั้น) น่ารักใช่ไหม เลยโดนพี่ๆแซวอีกรอบ
- เล่นละครกัน แกล้งทำเป็นช่วงสมัยเด็ก เล่นกัน ทะเลาะกัน เถียงกัน เจ๊เรียกตัวเองเป็นมิซาเอมอน
- มิตได้ที บอกมิซาเอมินไม่เข้านา อาตาเอมอน อาตาเอมอน อาตาเอมอน อาตาเอมอนเข้าสุด แล้วก็อาตาเอมอนกันใหญ่
- ลุงบอกงั้นจี้ต้องเป็นชิเอมอน ไปๆมาๆเป็นชินนามอน
- นิชชี่ถูกลืม ก่อนจะร้องเมดเล่ย์เลยลงไปนอนกลิ้งเกลือกทำท่าน่ารักๆเรียกเรทติ้ง
พอได้ดูจริงๆแล้วรู้สึกมันคุ้มค่าบัตรมาก ไม่เสียแรงที่พยายามดิ้นรนมาดูให้ได้ แล้วก็ได้ดูสมใจจริงๆ พอได้เจอตัวจริงไกลๆแบบนี้แล้วเวลาห้าหกปีที่ชอบมามันคือความคุ้มค่ากับสองชั่วโมงนี้ รู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเร็วมาก พอออกจากฮอลล์มาอีกทีก็ฟ้ามืดแล้ว
แผงรูปปาปาที่ร่ำลือกันของคอนญี่ปุ่น เดินออกมาหน่อยเดียวเจอเรียงกันสามสี่แผงพรืดไปหมด ใจจริงก็อยากเข้าไปมุงแล้วเก็บกลับมาบ้างนะ แต่เห็นราคาแล้วขอถอยก่อนดีกว่า มีแค่ของหน้าคอนเท่านี้ก็พอใจแล้ว
ได้เวลาอันสมควรโบกมือลาโอมิยะกลับโตเกียว ขอบคุณความทรงจำดีๆจากคอน AAA ถ้ามีโอกาสคราวหน้าจะต้องดูคอน AAA ให้ได้อีกแน่นอน ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะสมัคร AAA Party สำหรับคราวหน้าเวลาจองตั๋วคอน ไม่อยากมานั่งออคชั่นอีกแล้ว อีกอย่าง สมัครแล้วก็จะได้สิทธิพิเศษหลายๆอย่างด้วย (ถึงแม้จะต้องอยู่ที่ญี่ปุ่นถึงจะใช้สิทธิ์ทุกอย่างได้เต็มที่ก็ตามที) ขากลับเราไม่หลงทางแล้ว เดินกลับไปที่สถานีแล้วนั่งรถไฟสายเดิมกลับชินจุกุ
พอกลับมาถึงชินจุกุก็หลงเหมือนเดิมตามสไตล์ เพราะเราเดินออกมาจากสถานี JR แต่เราเองต้องการไปขึ้น Tokyo Metro ก็เลยเดินหลงหาทางลงสถานีใต้ดินแบบงงๆ อากาศค่อนข้างหนาวและลมแรง แต่กะเหรี่ยงบ่ยั่น เดินไปเรื่อยๆจนสุดท้ายหาทางกลับไปที่โรงแรมได้อย่างสวัสดิภาพพร้อมความฟินขั้นสูงสุด
จบภารกิจวันแรกไปเรียบร้อย จากนี้ไปก็ได้เวลาจัดกระเป๋าและเตรียมตัวนอนแล้ว พรุ่งนี้เราต้องรีบไปขึ้นรถแต่เช้า ฟูจิกำลังรอเราอยู่
2 Comments
ชอบ
ReplyDeleteสวัสดีค่ะชอบชื่อต๊อปนะคะชอบAAAมากๆเหมือนกันค่ะแต่ไม่นานเท่าชอบได้ประมาณ3ปี ครั้งหนึ่งในชีวิตก็คิดว่าอยากไปดูconAAA เหมือนกันและจะต้องไปให้ได้ด้วย คิดว่าคอนครบสิบปีน่าจะน่าไปที่สุดแต่ไม่รู้ซื้อบัตรยังไงต้องทำยังไงบ้าง.ถ้าหากคุณจะไปญี่ปุ่นเพื่อดูคอนAAAอีกก็อยากจะขอติดสอยห้อยตามไปด้วย ฝากID line ไว้นะคะยังไงเอดมาหน่อยนะคะ 0832941914 ขอบคุณมากค่ะอยากคุยกับคนที่รู้จักAAA บ้าง
ReplyDelete