บันทึกการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของกะเหรี่ยงสาวชาวไทยผู้หลงใหลญี่ปุ่น กับทริปลุยเดี่ยวเปรี้ยวสุดๆ ณ ประเทศในฝัน
วันที่ 17 พฤษภาคม 2013…
วันนี้เป็นวันเดินทาง ตอนช่วงเช้าไปทำงานตามปกติก่อน กระเป๋าเดินทางจัดไว้ล่วงหน้าแล้วประมาณ1-2อาทิตย์ (ไม่ค่อยจะเห่อ) ของทุกอย่างก็เตรียมเรียบร้อย เหลือแค่ตัวเองเท่านั้นที่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะลาพักร้อนไปลัลล้าตามที่หวังไว้มานาน แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นจนแทบจะไม่ได้ทำงานเลย มัวแต่คิดว่าเตรียมของเรียบร้อยนะ เงินเรียบร้อยนะ บลาๆๆ จนกระทั่งถึงเวลากลับบ้าน
เรารีบลากลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานสองชั่วโมง เพราะเครื่องออก 4 ทุ่ม ยังไงก็ต้องกลับบ้านมาเตรียมตัวก่อน เราก็เลยรีบกลับมาอาบน้ำแต่งตัว ลากกระเป๋าไปสุวรรณภูมิด้วยความตื่นเต้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปเที่ยวต่างประเทศ (ถ้าไม่นับทริปลาว) ได้นั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต และที่สำคัญ เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจไปเที่ยว “คนเดียว” จะมาดูกันว่าผลของการที่ออกกำลังกายมาตลอดปีจะช่วยให้เราอึดถึกกับทริปนี้ได้มากแค่ไหน
เรามาถึงสุวรรณภูมิประมาณทุ่มครึ่ง รอต่อแถวเช็คอินการบินไทย พอเช็คเรียบร้อยแล้วก็ไปเดินหาแลกเงินล็อตสุดท้ายสำหรับฝากซื้อของ (ซึ่งแอบเซ็งอะไรหลายๆอย่างของคนฝาก แต่เราจะไม่พูดถึง) ก่อนจะรีบไปผ่านตม. ทำงานเกี่ยวกับวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของชาวบ้านมาก็จริง แต่พอถึงเวลาต้องผ่านตม.นี่ก็แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าไม่มีอะไร เราไปผ่านเครื่องแบบงงๆก็เลยไม่ได้ตราแสตมป์ลงพาสปอร์ต แอบเสียดายนิดๆ
เคยมาสุวรรณภูมิแค่มารับคน พอถึงเวลาเดินทางจริงๆก็ว่ามันใหญ่จนหลงได้เหมือนกันนะ ถ้าไม่ได้ป้ายช่วยชีวิตไว้ แล้วทางเดินไปขึ้นเครื่องตอนแรกก็ได้ยินมาว่ามันไกล ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอมาเดินด้วยตัวเองจริงๆ… อืม…โคตรไกลเลยค่ะ ระหว่างทางร้าน duty free ก็เยอะจริงอะไรจริง ด้วยความที่เป็นครั้งแรกในชีวิตก็เลยรู้สึกว่า ทำอะไรต้องเผื่อเวลางง เวลาหลงเอาไว้ให้เยอะๆ เลยผ่านตม.ตั้งแต่ประมาณสองทุ่มครึ่งได้ แล้วก็เดินไปนั่งรอที่แถวๆเกต
คนนั่งรอแถวนั้นมีน้อยมาก อาจเพราะยังไม่ถึงเวลาเกตเปิดก็เลยไปเดินช็อปปิ้งกัน ส่วนเราที่ของฝากชาวบ้านเต็มกระเป๋าหลังแล้ว+ทำงานมา ก็เลยเลือกที่จะมานั่งรอเล่นเน็ตเล่นเกมไปเรื่อยๆมากกว่า เอาเข้าจริงๆพอมาถึงขั้นนี้แล้ว ตอนแรกที่เคยกังวลและตื่นเต้นมากๆมันหายไปเกือบหมดเลย ไม่กังวลสักนิดว่าไปเที่ยวคนเดียวแล้วจะรอดกลับมาไหม (มั่นใจว่าตัวเองเอาตัวรอดได้) คือมันเฉยมากจนไม่เหมือนกับเป็นการเดินทางครั้งแรกเท่าไหร่
เกตเปิดตอนประมาณสามทุ่มครึ่ง เราเข้าไปนั่งข้างใน ด้วยความที่ไฟลท์นี้ไปโตเกียว แน่นอนว่าคนญี่ปุ่นนี่เต็มไปหมด หันไปทางไหนก็มีแต่คนญี่ปุ่น แสดงว่าเรามาถูกที่แล้วสินะ ไฟลท์แอบเลทนิดนึงประมาณ 15-30 นาทีกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง
ขึ้นไปนั่งบนเครื่องเรียบร้อย ข้างๆเป็นคุณป้าและคุณลุงชาวญี่ปุ่น ที่นั่งเราติดหน้าต่างก็เลยได้ดูวิวไปด้วย ความตื่นเต้นหายไปเกือบหมดแล้ว รู้สึกธรรมดากับการขึ้นเครื่องบินมาก ตรงที่นั่งมีหมอนกับผ้าห่ม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหลาย จากนี้ไปเราจะออกเดินทางไปยังประเทศในฝันที่เคยคิดอยากจะไปมานานเสียที ในหัวทบทวนแผนว่าไปถึงแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง ก่อนจะรัดเข็มขัด และกัปตันประกาศจะนำเครื่องขึ้น
การเดินทางด้วยเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตของกะเหรี่ยงไทย จากนี้ไปจะเป็นยังไงต่อไป พรุ่งนี้เช้าเราจะได้รู้กัน แล้วเจอกันที่โตเกียวในอีก 6 ชั่วโมงนะ
0 Comments