สำหรับรอบนี้เป็นนิยายใสๆ(?)แทงใจมนุษย์เงินเดือน กับเรื่อง ちょっと今から仕事やめてくる (Chotto Ima kara Shigoto Yamete kuru) หรือแปลไทยแบบตรงตัวเลยว่า “เดี๋ยวจะไปลาออกสักหน่อย” เรื่องนี้ได้รับรางวัล Dengeki Novel Prize (電撃小説大賞) ครั้งที่ 21 ของสำนักพิมพ์ Media Works Bunko ด้วยนะคะ
(ภาพจากเว็บ Amazon)
ชื่อเรื่อง : ちょっと今から仕事やめてくる (Chotto Ima kara Shigoto Yamete kuru)
ผู้เขียน : 北川恵海 (Emi Kitagawa)
สำนักพิมพ์ : メディアワークス文庫 (Media Works Bunko) KADOKAWA
จำนวนหน้า : 235 หน้า
ราคา : 530 เยน + ภาษี
เรื่องนี้เป็นนิยายเล่มเดียวจบค่ะ
ตอนแรกเห็นที่ร้านหนังสือแล้วก็สนใจ
พออ่านเรื่องย่อหลังปกแล้วก็ยิ่งชอบแต่ก็พยายามตัดใจว่ายังไม่ซื้อนะ
ขออ่านเรื่องที่ซื้อมาให้จบก่อนเพราะกลัวจะอ่านไม่ไหว
แต่สุดท้ายก็วิ่งไปซื้อมาตอนอ่านคุริมารุโดจบเล่ม 3 ค่ะ ฮาาา
(กับเรื่องเรียนทุ่มเทแบบนี้ไหม)
สำหรับเนื้อหาของเล่มนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาโอยาม่า ทาคาชิ
(青山 隆) พนักงานบริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าทำงานในบริษัทซึ่งใช้งานได้แบบสุดโหด
ทำโอทีทุกวัน วันเสาร์ก็ต้องไปทำงาน ผลงานในที่ทำงานก็แย่ จนกระทั่งวันหนึ่ง
ทาคาชิเกือบจะกระโดดรางรถไฟโดยไม่รู้ตัว จู่ๆชายปริศนานาม “ยามาโมโตะ (ヤマモト)"
ก็เข้ามาช่วยไว้ โดยแนะนำว่าตัวเองเป็นเพื่อนสมัยประถมที่ย้ายไปโอซาก้ากลางคัน
หลังจากนั้นทาคาชิก็ได้รับคำแนะนำหลายอย่างจากยามาโมโตะในเรื่องงานด้วย จนกระทั่ง
ทาคาชิได้รู้ว่ายามาโมโตะคนที่เป็นเพื่อนเก่าสมัยประถมตัวจริงตอนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศต่างหาก…
หลังจากนั้น ทาคาชิก็ได้คุยเรื่องนี้กับยามาโมโตะและได้รู้ชื่อจริงของ “ยามาโมโตะ จุน (山本 純)" คนที่ช่วยตนเองเอาไว้ รวมถึงได้เห็นใบขับขี่ที่ยืนยันถึงความมีตัวตนของยามาโมโตะด้วย ซึ่งทั้งสองก็ยังคบกันเป็นเพื่อนตามเดิม ส่วนสถานการณ์ในที่ทำงานของทาคาชินั้นก็แย่ลง โปรเจ็กต์ใหญ่ที่ได้รับมอบหมายผิดพลาด ถูกหัวหน้าด่าว่าไร้ค่า และถูกโอนงานไปให้รุ่นพี่ที่ทาคาชิไว้ใจที่สุดซึ่งออกมารับหน้าแทน จนกระทั่งวันหนึ่ง ยามาโมโตะปฎิเสธคำชวนไปซื้อของกับทาคาชิ แต่ทาคาชิกลับพบยามาโมโตะในแบบที่ต่างจากเคยกำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่ง จึงเกิดความสงสัยในตัวตนของยามาโมโตะขึ้นมาอีกครั้ง ทาคาชิจึงลองไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และพบข่าวว่า “ยามาโมโตะ จุน” ได้ฆ่าตัวตายไปเมื่อสามปีที่แล้ว…
(หลังจากนี้เป็นสปอยจนจบเรื่อง
ถ้าใครอยากอ่านกรุณาคลุมดำเอาเองนะคะ)
ทาคาชิสับสนว่า ถ้างั้นยามาโมโตะที่ตนคบอยู่ตอนนี้เป็นวิญญาณอย่างนั้นหรือ และสถานการณ์ในบริษัทก็ถึงขีดสุด เมื่อได้ทราบความจริงจากปากรุ่นพี่ที่ไว้ใจที่สุดว่า ตัวเขาเองเป็นคนแอบเปลี่ยนข้อมูลของทาคาชิและส่งเรื่องที่ผิดพลาดไปให้ทางลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเคลมและตัวเองเข้ามาดูแลโปรเจ็กต์ต่อเองต่างหาก ทาคาชิโทษตัวเองในทุกเรื่องและจะกระโดดตึกสำนักงานฆ่าตัวตาย แต่ยามาโมโตะก็โผล่มาช่วยเกลี้ยกล่อมให้ทาคาชิล้มเลิกความคิด
ทาคาชิสับสนว่า ถ้างั้นยามาโมโตะที่ตนคบอยู่ตอนนี้เป็นวิญญาณอย่างนั้นหรือ และสถานการณ์ในบริษัทก็ถึงขีดสุด เมื่อได้ทราบความจริงจากปากรุ่นพี่ที่ไว้ใจที่สุดว่า ตัวเขาเองเป็นคนแอบเปลี่ยนข้อมูลของทาคาชิและส่งเรื่องที่ผิดพลาดไปให้ทางลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเคลมและตัวเองเข้ามาดูแลโปรเจ็กต์ต่อเองต่างหาก ทาคาชิโทษตัวเองในทุกเรื่องและจะกระโดดตึกสำนักงานฆ่าตัวตาย แต่ยามาโมโตะก็โผล่มาช่วยเกลี้ยกล่อมให้ทาคาชิล้มเลิกความคิด
หลังจากนั้น
ทาคาชิจึงได้สืบเรื่องตัวจริงของยามาโมโตะและได้ไปเยี่ยมถึงบ้านที่โอซาก้า จริงๆแล้ว
ยามาโมโตะ จุน ที่เสียชีวิตไปนั้นมีฝาแฝดชื่อ ยามาโมโตะ ยู (山本 優)
ซึ่งตอนนี้อยู่ที่โตเกียวต่างหาก หลังจากนั้นทาคาชิได้นัดให้ยูออกมาพบ
พร้อมกับเล่าเรื่องครอบครัวของตัวเองให้ฟัง
และมุ่งหน้าไปลาออกจากบริษัทพร้อมกับขอให้ยามาโมโตะรอที่คาเฟ่สักครู่
แต่เมื่อกลับมา ยามาโมโตะก็ไม่อยู่ที่นั่นอีกแล้ว
สุดท้าย ทาคาชิก็ได้พบกับยามาโมโตะ ยู ที่อยู่ในฐานะแพทย์ของโรงพยาบาลอีกครั้ง เป็นอันจบเรื่อง
ส่วนตัวว่าเรื่องนี้สนุกสมกับที่ได้รางวัลจริงๆ
เนื้อหาเกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนก็เขียนได้อารมณ์
มีทั้งเรื่องค่านิยมเกี่ยวกับการทำงานของคนญี่ปุ่น การทำโอที การใช้งานเกินขอบเขต
ความรับผิดชอบ การหักหลังของคนที่ไว้ใจ และเจ้านายห่วยๆ (ฮา)
ครบเครื่องแทงใจมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆมาก
ฉากที่พีคที่สุดฉากนึงในเรื่องคือ
ฉากที่ทาคาชิตัดสินใจลาออกจากบริษัท เขาพูดกับหัวหน้าว่า
เอาแต่พูดว่าหมาขี้แพ้ๆ
การบอกว่าชีวิตแพ้ชนะนี่มันใช่เรื่องที่คนอื่นจะมาตัดสินหรือไง?
แล้วชีวิตคนนี่มันแบ่งแค่แพ้ชนะงั้นหรือ? ถ้างั้นตัดสินยังไงล่ะว่าตรงไหนแพ้
ตรงไหนชนะ? แค่ตัวเองมีความสุขก็พอแล้วไม่ใช่หรือ แล้วหัวหน้าล่ะ
ตอนนี้มีความสุขหรือเปล่า
ถ้ามีความสุขคงไม่เอาแต่โกรธคนอื่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแบบนี้ คือเห็นด้วยมาก
บริษัทและงานไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต และบริษัทก็ไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวด้วย
ถ้าอยู่แล้วตัวเองไม่มีความสุข ต้องฝืนใจมาทำงานทุกวันมันก็ไม่ใช่สำหรับเรา
นอกจากนี้เรื่องนี้ยังมีประเด็นเรื่องของการตัดสินใจฆ่าตัวตายและคุณค่าของชีวิตด้วย
มีตอนหนึ่งที่ยามาโมโตะถามทาคาชิว่า “แกคิดว่าชีวิตของแกมีอยู่เพื่ออะไร?"
และทาคาชิตอบว่า “…เพื่อบริษัท” แต่จริงๆชีวิตเป็นของเราและของคนที่รักเรา
ซึ่งรวมถึงพ่อแม่ของเราด้วยต่างหาก ยามาโมโตะได้ชี้ถึงจุดนี้ให้ทาคาชิที่คิดว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวได้เห็นคุณค่าของชีวิตตนเองมากขึ้น
เรามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราและคนที่เรารัก ไม่ใช่มีชีวิตอยู่เพื่อบริษัท ดังนั้น
แทนที่จะฆ่าตัวตายเพราะเรื่องงาน
จงรักชีวิตและให้ความสำคัญกับชีวิตและคนรอบข้างของตัวเองดีกว่า
พออ่านจบแล้ว ในฐานะที่เคยผ่านจุดเดียวกับตัวเอกมาแล้ว
(แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายนะ แค่กลับบ้านไปร้องไห้ทุกวัน)
ก็รู้สึกเข้าใจในทุกฝ่ายและเข้าใจประเด็นที่เรื่องนี้ต้องการสื่อได้ง่าย
น่าจะเพราะมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการทำงานมาแล้วด้วยก็เลยยิ่งอินเข้าไปใหญ่
ส่วนในเรื่องภาษา
แรกๆก็อ่านยากเพราะยังไม่คุ้นกับสำนวนของคนเขียน และเรื่องนี้มีคันไซเบงด้วย
แต่พอชินแล้วก็อ่านไปได้เรื่อยๆ สบายๆ
คงเพราะส่วนนึงเป็นเรื่องใกล้ตัวก็เลยทำความเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ
แล้วพบกันใหม่กับรีวิวเล่มหน้านะคะ :)
0 Comments