สวัสดีค่า กลับมาอีกแล้วกับการรีวิวหนังสือภาษาญี่ปุ่น สำหรับเล่มนี้เป็นเล่มแรกของปี 2024 ที่อ่านจบค่ะ เป็นภาค 2 ของบ้านประหลาดต่อจากเล่มแรกที่ฮิตสุดๆ เรารีบหยิบมาอ่านลัดคิวก่อนทุกเล่มเพราะอยากรู้ว่าเรื่องในเล่มนี้จะเป็นแนวไหน ยังไงต่อไป ซึ่งเล่มนี้ก็เพิ่งออกมาที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาปีที่แล้วสดๆ ร้อนๆ เลย คิดว่าเดี๋ยวสักพักน่าจะมีแปลไทยออกมาให้ได้อ่านกันค่ะ
(ภาพจาก Amazon)
ชื่อเรื่อง : 変な家2 ~11の間取り図~ (Hen na Ie 2 ~11 no Madorizu~)
ผู้เขียน : 雨穴 (Uketsu)
สำนักพิมพ์ : 飛鳥新社 (Asukashinsha)
จำนวนหน้า : 453 หน้า
ราคา : 1215 เยน
เนื้อหาหลักๆ จะเป็นเอกสารที่ทางผู้เขียนรวบรวมจากเรื่องราวของผู้อ่านทางบ้านที่มาปรึกษาเรื่องผังบ้านแปลกๆ ทั้งหมด 11 ฉบับ ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีเรื่องราวของผังบ้านหรือเรื่องราวแปลกๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งปลูกสร้างแบบต่างกรรมต่างวาระ แต่เอกสารทั้ง 11 ฉบับนี้กลับมีส่วนที่เชื่อมโยงกันจนบ้านทุกหลัง เรื่องราวทุกอย่างในเอกสารกลายเป็นเรื่องราวเดียวกัน วิเคราะห์โดยคุริฮาระเจ้าเก่า รวมถึงผู้เขียนยังไขปริศนาเองบางส่วนด้วย
ฉบับที่ 1 เจ้าของเรื่องเอาผังบ้านสมัยเด็กที่มีทางเดินแปลกๆ ที่ไม่พาไปที่ไหนเลยซึ่งกั้นระหว่างห้องพ่อแม่กับห้องตัวเองมาปรึกษาผู้เขียน
ฉบับที่ 2 ผังบ้านของบ้านที่เคยเกิดคดีฆ่ายกครัวโดยลูกชายวัยรุ่นในเมืองชิสึโอกะ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่ชาวเน็ตว่าเกิดคดีแบบนี้ขึ้นมาเพราะผังบ้านมีปัญหา
ฉบับที่ 3 โรงสีน้ำประหลาดที่เจอในป่า เป็นเรื่องจากรวมบันทึกเก่าที่ตีพิมพ์ในปี 1940 เอามาปรับภาษาให้เป็นภาษาปัจจุบันพร้อมวาดภาพจากคำบอกเล่าเพิ่มเติม
ฉบับที่ 4 ผู้เล่าเรื่องเล่าถึงประสบการณ์ที่เคยไปค้างบ้าน (คฤหาสน์) ของเพื่อนที่เป็นคุณหนูของครอบครัวซึ่งทำกิจการปลูกสร้างที่อยู่อาศัย แต่ในคืนที่เธอไปค้าง คุณย่ากลับเกิดอุบัติเหตุตกบันไดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ฉบับที่ 5 เจ้าของเรื่องซื้อบ้านมือสองมา หลังจากอาศัยอยู่ไปได้สักพักก็ได้ลองเล่นเว็บค้นหา 事故物件 (สถานที่ที่เคยมีคนตาย) และเจอว่าบ้านที่ตัวเองอยู่ปัจจุบันก็เป็น 事故物件 ด้วย เลยเอาเรื่องมาปรึกษาผู้เขียนและช่วยกันสืบว่าเคยเกิดอะไรขึ้นที่นี่ในอดีตกันแน่
ฉบับที่ 6 บทความครึ่งแรกเกี่ยวกับการแฉลัทธิแปลกๆ ลัทธินึงในนากาโนะที่มีหญิงผู้หนึ่งเป็นผู้นำลัทธิ โดยลัทธินี้ไม่ได้มีอะไรที่ล้างสมองสาวกให้เชื่อถืออะไรที่หลุดโลกแต่ล้างสมองในเรื่องอื่นที่คนทั่วไปดูไม่ออก โดยสาวกจะมีจุดร่วมอะไรบางอย่างและยอมประเคนเงินทองของแพงให้แก่ทางลัทธิ ตัวคอลัมนิสต์สงสัยว่าสิ่งที่สาวกถูกล้างสมองคืออะไรกันแน่จึงแฝงตัวเข้าไปสืบในลัทธิ บทความนี้ไม่มีครึ่งหลังให้อ่านต่อ
ฉบับที่ 7 ตัดตอนจากไดอารีของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับแม่และบ้านคุณลุงใจดีที่แม่พาไปเป็นครั้งคราว
ฉบับที่ 8 เจ้าของเรื่องเล่าเรื่องความทรงจำในบ้านสมัยเด็กที่ตัวเองเคยเล่นโทรศัพท์เส้นด้ายกับพ่อที่เป็นชายแท้ เจ้าชู้ และเห็นแก่ตัว รวมถึงเรื่องครอบครัวเพื่อนบ้านที่เกิดไฟไหม้ ทางตำรวจสรุปว่าคู่สามีภรรยาเผาบ้านฆ่าตัวตายเอง ส่วนลูกชายของบ้านนั้นรอดชีวิตมาได้เพียงคนเดียว
ฉบับที่ 9 ผู้เขียนไปเก็บข้อมูลเรื่องไฟไหม้บ้านข้างๆที่ได้ฟังจากเจ้าของเรื่องที่ 8 กับลูกชายบ้านนั้นที่รอดมาได้เพิ่มเติม แต่ตัวลูกชายบ้านข้างๆ ที่ว่ามีข้อสันนิษฐานต่อเรื่องเพลิงไหม้คนละอย่างกับเจ้าของเรื่องที่ 8
ฉบับที่ 10 เรื่องเล่าจากมาม่าเจ้าของบาร์เหล้าที่สมัยยังสาวเคยถูกยากูซ่าพาตัวไปทำงานในซ่องเพื่อใช้หนี้ โดยสถานที่ที่ถูกพาไปคืออพาร์ตเมนต์สองชั้นที่ไม่มีทางให้หนี
ฉบับที่ 11 เจ้าของเรื่องเล่าว่าสมัยเด็กตัวเองเคยเข้าไปอยู่ในห้องแปลกๆ ห้องนึงในบ้าน แต่พอกลับมาหาห้องนั้นอีกครั้งก็หาไม่เจอแล้ว แต่รู้ว่าห้องนั้นมีอยู่ในบ้านจริงๆ เลยมาปรึกษากับผู้เขียน
ส่วนตัวแล้วคิดว่าเล่มนี้เอกสารและข้อมูลรองรับเยอะกว่าเล่มแรกมากๆ (เล่มแรกออกแนวคิดสันนิษฐานไปเรื่อยเองเยอะ และจบแบบอิหยังวะอยู่) เพราะเป็นแบบการสืบโดยใช้เอกสารเป็นหลักแนวๆ documentary ด้วยค่ะ บางเรื่องก็เดาได้ บางเรื่องก็คาดไม่ถึง และเพราะเอกสารเยอะนี่แหละทำให้เดาเรื่องบางอย่างได้เลาๆ หลายอย่างก็ไม่แปลกใจ แต่หลายอย่างก็โดนคนเขียนตลบหลังอยู่เหมือนกัน แต่จะไม่เหวอแบบ อย่างนี้ก็ได้เหรอ เท่าเล่มแรก การดำเนินเรื่องช่วงครึ่งแรกจะเป็นเนื้อหาเอกสารทั้งหมด ซึ่งเราอ่านไปหลายครั้งก็แอบเบื่อเหมือนกัน รู้สึกมันไม่ได้สนุกพีคทุกเรื่อง พอมาในส่วนของคุริฮาระก็เดาๆ เอาไว้หลายอย่างแล้วและก็ถูกต้องตามที่คิดจริงๆ
ในส่วนของภาษายังอ่านง่ายไม่ต่างจากบ้านประหลาดเล่มแรกและภาพประหลาด แต่โทนของเล่มนี้จะดูน่าเชื่อถือและจริงจังกว่าเล่มแรก แต่ก็มีกลิ่นอายแบบนิยายเหมือนเล่มภาพประหลาดที่เข้มข้นกว่าเล่มแรกด้วย อ่านๆ ไปต้องถอดสมองหลายจุดอยู่ก็จริง แต่โดยรวมแล้วถือว่าไม่แย่ค่ะ ถ้าใครชอบบ้านประหลาดเล่มแรก มาอ่านเล่มนี้อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นเท่าแต่ก็ไม่ได้ดร็อปจนน่าเกลียด (ฝีมือนักเขียนถือว่าพัฒนาขึ้นนะเอาจริง แค่พล็อตมันอาจไม่ได้สดใหม่เท่าตอนออกเล่มแรกแล้ว) ยังอ่านเพลินๆ และมีจุดให้ลุ้นได้เยอะอยู่ค่ะ
แล้วพบกันใหม่เล่มหน้าค่ะ
0 Comments